25/10/53

Study UK :30 เทียวญี่ปุ่นในอังกฤษ วันที่ 1

เห็นมีคนบอก ถ้าไม่เห็นรูปปั๊นนี้ มาไม่ถึงลอนดอน ผมเห็นขี้นกเต็มรูปปั๊มเลย 

ก็ว่างๆและมีความอยากหาการ์ตูนญี่ปุ่นในอังกฤษ ก็เลยไปหาผ่านอินเตอร์เน็ตมาก็ต้องขอบคุณ ก่อนเลย
เพราะไม่งั้นหาที่ไม่เจอแน่ๆ เพราะหลังจากเดินขาลากเพื่อดูร้านหนังสือการ์ตูนมาเกือบวันเต็มๆ (อีกวันนึงเดี้ยงเลย) ผมก็พบว่า คนที่นี่ไม่ค่อยนิยมการ์ตูนเท่าไหร่เลย (โมเอะๆหายไปไหนหมด เศร้าๆ)

24/10/53

Study UK :29 "เมืองผู้ดี"

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ฟังจากคนไทยคนอื่น ไม่ว่าจะพูดกับผมโดยตรง หรือ ได้ยินคนคุยกัน บ้างเรื่องเป็นเรื่องที่เจอกับตัวเลยก็มีเหมือนกันนะ ก็เลยอยากเอามาเล่าให้ฟัง เพื่อใครมาแล้วผิดหวังอ่านะ
" เมืองผู้ดี " 

Study UK :28 เที่ยวรอบบ้านไปกับคนหลงทาง ยังไม่จบ

คิดว่าเราเป็นแมงมุม เราก็เดินรอบๆใยตัวเอง อย่าให้มันหลงก็พอ

ก็เช้าวันต่อมาหลังจากการขนของย้ายย้าน ก็พักผ่อนมาทั้งคืนแล้วนะ ก็เลยสบายๆ ไม่คิดอะไรมาก (คิดไม่ไหวแล้ว สมองไหลออกไปหมดแล้ว) ก็อย่างแรกๆก็ต้องดูว่ามีอะไรในบ้านบ้างนะ แต่ก็เขียนๆไปแล้วล่ะ ห้องน้ำห้องส้วม ห้องครัว สิ่งของต่างๆอ่านะ ก็อย่างต่อมาก็ต้องรู้ว่ามีอะไรรอบๆที่อยู่บ้าง ผมเองก็คุยกับพี่เจ้าของบ้านมานิดหน่อยว่ามีอะไรบ้าง

22/10/53

Study UK :27 ย้ายบ้าน Move!!


ย้ายบ้าน ก็ย้ายที่อยู่น่ะละครับ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ตอนแรกที่ไปก็มีแค่กระเป๋าใบเดียวสีดำใหญ่ๆล่ะ แต่ไปๆมาๆ ก็เริ่มมีของเยอะขึ้นอีก เป็นกล่องใสบ้าง เป็นของกินอีก จานชามถ้วยแก้วอีกสารพัด ก็แค่ๆเยอะขึ้น แต่ทำไมเงินในกระเป๋ามันน้อยลงฟะ

18/10/53

Study UK :26 หาบ้าน Find!!








ล่ะแล้ว เวลาย้ายบ้านก็มาถึง ก็อยู่บ้านเดียวกับ host ที่เป็นคนอังกฤษ (เชื้อสายนิโก) มาครบหนึ่งเดือนพอดี ก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่วุ่ยวายมาก เพราะว่าต้องหาหอแบบกระทันหันด้วย ที่จริงตอนแรกก็มีหอพักแล้วล่ะ ที่นี่ไม่อยากย้ายเพราะเสียดายตังค์ที่จ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็เลยไม่ได้ย้ายไป แต่พอจะย้ายไป ก็มีคนเอาไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะติดกันเอาไว้ก่อน ประมาณว่า ติดวันนี้ อีก 3 สัปดาห์ว่าง ก็เลยหาหออยู่ไม่ได้ 

Study UK :25 Deliverer คนส่งของ






 "เรากำลังถือความสุขไปให้ลูกค้า" 




ก็มาทำงานที่ร้านอาหารอีกร้านนึงก็เป็น คนส่งของด้วยอ่านะ ผมเองก็อยากจะลองเขียนแบบนิยายดูน่ะ ผมเองก็ได้รับกระดาษในเล็กๆ ใบนึง แล้วก็แผนที่ มาพร้อมกับกระเป๋าส่งของที่ใส่อาหารมาด้วย แล้วการเดินทางเพื่อไปส่งอาหารก็เริ่มต้นขึ้น แตนแต่นแต้น

17/10/53

Study UK :24 บ่นในครัว

ก็เรื่องปกติที่ร้านอาหารก็ต้องมีครัวอยู่แล้วล่ะ ไม่มีอะไรหรอก ผมก็ได้ทำงานในครัวเหมือนกัน แค่นิดหน่อย เป็นลูกมือแม่ครัวที่นี่ แม่ครัวที่นี่ชื่อพี่พร เรียกพี่เพราะรู้สึกเรียกป้า มันแก่ไปน่ะล่ะ ก็อารมณ์ดี ขำๆ สบาย แบบไทยๆน่ะ

วันที่อยู่ในครัวกับพี่พรเขา ก็มักจะร้องเพลงให้ฟัง แต่เพลงที่พี่เค้าร้องแต่ละเพลง ผมยังไม่เกิดเลยอ่า ไม่รู้จักซักเพลงเลย พี่เค้าก็ร้องไปเรื่อย จนคุณน้า (เจ้าของร้าน) ลงมาทำงาน พี่แกเงียบเลย ไม่รู้อะไร อิอิ

11/10/53

Study UK :23 บ่นเรื่องเด็กเสริ์ฟ ตอน 2

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จก็เตรียมเปิดร้าน ก็ไม่ยาก เดินไปเปิดป้ายไฟหน้าร้าน ร้านก็เปิดแล้ว แล้วก็หรี่ไฟลงให้เกือบจะมืดๆ แบบโรแมนติกอ่ะนะ ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจนะว่า จะหรี่ไฟทำไม เพราะว่าถ้าต้องการที่จะให้คนกินอาหารมากๆ ต้องอยู่ในที่สว่างๆ แล้วก็ ถ้าร้านสว่างๆ ก็จะเห็นสีสรรอาหารชัดเจนด้วยนะ น่าทานกว่าเยอะ ที่คิดไว้มีเหตุผลเดียวเลยที่ทำให้ต้องเปิดร้านมืดๆ คือจะได้มองไม่ชัด ทีนี้ก็จะไม่ค่อยเห็นสิ่งผิดพลาด อิอิ

แปปนึง อาหารคนเสริ์ฟก็จะขึ้นมาใหกินกัน ก็เป็นอาหารที่จะได้กินฟรีก่อนที่จะเริ่มทำงานนะ ก็แล้วแต่แม่ครัว วันไหนอารมณ์ อาหารก็อร่อย วันไหนหงุดหงิด เจ้แกก็ยัดพริกเต็มที่เลย ไฟแทบลุก วันดีคืนดีก็ขึ้นมาถาม อยากกินไรดีวันนี้ วันที่เราคิดได้ก็ไม่ขึ้นมาถามซะงั้น เอาแน่นอนไม่ค่อยได้หรอก แต่ก็อร่อยดี

6/10/53

Study UK :22 บ่นเรื่องเด็กเสริ์ฟ 18+ ตอน 1

ก็อย่างว่าอ่ะนะ อาจมีคำไม่เหมาะสมหลายๆคำ แต่เพื่อให้ได้อารมณ์ในขณะที่ปฎิบัติงานอยู่จริงๆ ก็ต้องใช้คำพวกนี้ล่ะ ใครมือถือสากปากถือศีล ก็ปิดไปเถอะ อิอิ

ไม่มีรูปนะ ไม่รู้จะเอารูปไหนลงดี ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่เลย

3/10/53

Study UK :21 บ่นในร้านอาหาร แสดงสถานที่ ตัวละครก่อน ภาค 1

ภายในร้าน เอาใว้ดู จะได้นึกออก


ปล. เป็นการรวมการทำงานของหลายๆวันเข้าด้วยกันด้วยความมั่วๆของผู้เขียน

ผมก็เข้ามาทำงานที่ร้านอาหารร้านนึงใน UK นะครับ ก็มีพี่ๆอีก 2 คน ชื่อ พี่เตย และก็ พี่บี นะครับ นอกจากนั้นก็มีเจ้าของร้านอีก 2 คน คุณน้า คุณอา (ไม่รู้ชื่ออ่า) แล้วก็มีคนครัวอีก 2 คน ชื่อ ชาดีน(คนต่างชาติ) พี่พร ก็ทำอาหารอยู่ด้านล่างอ่านะ