เห็นมีคนบอก ถ้าไม่เห็นรูปปั๊นนี้ มาไม่ถึงลอนดอน ผมเห็นขี้นกเต็มรูปปั๊มเลย
ก็ว่างๆและมีความอยากหาการ์ตูนญี่ปุ่นในอังกฤษ ก็เลยไปหาผ่านอินเตอร์เน็ตมาก็ต้องขอบคุณ ก่อนเลย
เพราะไม่งั้นหาที่ไม่เจอแน่ๆ เพราะหลังจากเดินขาลากเพื่อดูร้านหนังสือการ์ตูนมาเกือบวันเต็มๆ (อีกวันนึงเดี้ยงเลย) ผมก็พบว่า คนที่นี่ไม่ค่อยนิยมการ์ตูนเท่าไหร่เลย (โมเอะๆหายไปไหนหมด เศร้าๆ)
ก็หลังจากเลิกเรียนที่ LSC แล้วผมก็ออกเดินทางไปที่ piccadilly circus เลย เพราะจากที่ไปดูบล็อคของพี่เค้า (เรียกพี่ล่ะกัน) ก็ไปที่นี่ก่อนเหมือนกัน ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นใจกลางของลอนดอนเลย (ไม่ก็เกือบกลางว่ะ) จากที่นี่ไปสามารถเดินไป Eye of london สะพานยกได้ (จำชื่อไม่ได้) หอนาฬิกา bigben ได้ด้วยล่ะ (ถ้าขาไม่หลุดซะก่อนนะ)
ก็ขึ้นมาบนรถสาย 14 ตรงไปสู่ที่ๆต้องการได้เลย ถ้าถามว่าทำไมไม่ไป tube ผมบอกตรงๆ เปลืองตังค์ ก๊าก ๆ รถเมล์ประหยัดกว่าเยอะ แล้วก็เห็นทัศนียาภาพของถนนที่ผ่านด้วยล่ะ (ข้ออ้างคนจน) ผมก็นั่งรถผ่านไปเรื่อยๆ ก็เก็บรูปมาเยอะมากน่ะ แต่ก็เอาเฉพาะบางรูปมาล่ะกัน
ผ่านสมาคมฟุตบอลด้วย เสียดาย ดูบอลไม่เป็น
ถ่ายจากบนรถเมล์นะ ก็ตึกใหญ่มาก เห็นว่ามีอีกหลายทีมใน UK แปลกดี
เจอคนตรวจตั่วรถเมล์ด้วย ถ้าผิดคน หรือไม่มีตั๋ว โดน 50 ปอนด์ ทันที
นึกว่าจะมีแต่วัดไทยที่ชอบทำอะไรเวอร์ๆนะ ที่นี่ก็มีเหมือนกัน
อีกรูปล่ะกัน
เริ่มมีอะไรแปลกๆแล้ว
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่นี่มีทั่วเลยล่ะ
หลังจากที่นั่งรถมานานมาก (ก็จากต้นสายยันเกินสุดสายน่ะ) ก็ได้เวลาลงแล้ว ผมก็ก็ตื่นเต้นนิดๆ (ยังไม่รู้ว่าจะเจอความผิดหวังอย่างแรง ฮือ) ก็เตรียมลุกเลย ด้วยความที่ว่ากลัวเลย เลยซวยเลย รถติดไฟแดง ไม่ถึงป้ายมันไม่เปิดประตู ไอ้คนที่มานั่งที่ผมแทนก็มองหน้าผมอีก น่าเตะจริงๆ
ถึงชัวร์ๆ เพราะมีป้ายบอก
เอารูปแผนที่ให้ดูหน่อย
ก็พอเดินลงมาก็พบกับฝูงคนเดินไปมาเต็มไปหมดเลย คือปกติอยู่นอกเมืองที่เมืองนอกน่ะ เลยไม่ค่อยเห็นคนเท่าไหร่ ผมเองก็เริ่มเดินทางได้ ที่แรกที่ไปอยู่ตรงข้ามเลยครับ Japan Center ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นนะ มันปิด มองเข้าไปข้างใน ก็เหมือนกำลังรื้อหรือซ่อมอะไรซักอย่างอยู่ ไม่แน่ใจ แต่เอาเป็นว่า เข้าไม่ได้อ่า เศร้าเลย
ดันมีรถขวางซะงั้น
ก็เดินมาเรื่อยๆ ก็มาที่อนุเสารี่ คนมีปีกยิงธนูมีขี้นกติดรอบตัวและนกพิราบเกาะอยู่ แล้วก็หันหน้าไปมองโรงหนัง(มั้ง) ก็ไม่ได้ใหญ่มากนะ แล้วผมก็ไม่แน่ใจ ใช่ที่คนอื่นเค้าบอกกันหรือเปล่านะ เพราะว่ามันไม่ค่อยเด่นเลย แต่คิกถึงอนุเสารีเด็กยืนเยี่ยวก็พอเข้าใจนะ เล็กนิดเดียวเลย ก็มองรอบๆ ก็เห็นจุดๆหนึ่ง ที่คนชอบยืนถ่ายกัน เลยเก็บภาพมาหน่อยนึง เท่าที่ดูก็คล้ายๆ ย่านดังในญี่ปุ่นนะ ป้ายโฆษณาใหญ๋ๆน่ะ
ไม่แนะนำให้ถ่ายใกล้ๆ เดียวเห็นของดี
เห็นคนมีปีกเค้าหันหน้าไปมองโรงหนัง เลยถ่ายติดมาด้วย
อีกมุมนึงของบริเวณนี้ ที่เห็นคนถ่ายกัน
แล้วผมก็เริ่มเดินไปตามทางก่อนเลย ก็ไม่ได้เอาแผนที่มา บวกกับ โทรศัพท์เข้าเน็ตได้แต่ภาษาไทยไม่ได้ ก็เลยเดินแบบไม่รู้เส้นทางเลย ผมก็ค่อยๆเดินแบบที่ทำเป็นประจำ "มั่ว" ก็เดินแบบแมงมุมก่อนเลยน่ะล่ะ แบบนี้ไม่ค่อยหลงทางเท่าไร แต่มันเสียเวลาเพราะต้องเดินย้อนไปมามากกว่า แต่เอาชัวร์ก่อนดีกว่า ก้ระวังทางที่เดินก็เจอร้านค้าน่าสนใจมาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปในร้านมานะ กลัวโดนด่า เดี่ยวซวย
ชื่อร้านชวนให้เข้า แต่ข้างในไม่มีอะไรเลย เซง
ตอนแรกนึกว่าร้าน cos-play ซะอีก แต่ไม่ใช่ ออกแนวซาดิสของยุโรปมากกว่า
ใครชอบไวท์มาร้านนี้เลย ป้ายราคาบอกทุกขวด แบบว่าเยอะมากๆเลยล่ะ
ที่ลอนดอนมีจักรยานให้เช่ามากมายเลยล่ะ แต่แพงไม่ใช่เล่นๆนะ เราก็นึกว่าอยากให้คนใช้จักรยานกันมากๆ ดันเก็บตังค์ซะแพงเลย แล้วใครจะไปขี่หว่า (สังเกตุง่ายๆ จักรยานมีเต็มตลอดเลย) แต่ก็ดีนะ ผมเอาไว้ใช้ดูแผนที่ ที่เสาข้างๆจักรยาน สะดวกดี เพราะบอกทิศทางที่เราหันหน้าได้ด้วย งานนี้ใครไม่เก่งแผนที่ก็งานเข้าล่ะ หึหึ
เหลือเต็มเลย ไม่มีคนขี่ น่าสงสาร
เจอรถเมล์เปิดประทุนด้วย เห็นว่าบริการรอบๆเมืองในลอนดอนเท่านั้น บ้านนอกไม่เกี่ยว อันนี้ไม่ชัวร์นะ
คันเดียวกัน แต่คนละมุม นึกว่าคนละคันเลย
ก็เดินมั่วๆ ไปเรื่อยๆ ก็เห็นร้านอาหารญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไทย มั่วไปหมดในบริเวณรอบๆ ก็แน่นอนล่ะ ใจกลางเมือง คนเยอะ ของกินก็เยอะตามไปด้วยล่ะ ผมเองก็เดินไปเรื่อยจนไปเห็นตึกไรไม่รู้ใหญ่มาก แล้วก็เห็นอนุเสารี่น้ำพุ นอกจากนั้นก็มีเรือในขวดด้วย (ขวดใหญ่มาก) ก็ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย แล้วก็บังเอิญเห็น BigBen กับ Eye of London ด้วยล่ะ เล็กๆ แต่วันนี้เรามาหาร้านการ์ตูน ไม่ได้ไปดูนาฬิกา อิอิ เดินผ่านไปเลย
ตึกไรไม่รู้ที่ว่าน่ะ ถ่ายไม่หมด มันยาว
เรือในขวด แล้วก็เห็น eye of london ด้วย เล็กๆ ด้านหลังอนุเสารี่
ขอย้ำอีกรอบ "ใหญ่โครต"
น้ำพุ พุ่งปริ๊ดๆ
ซักรูปหน่อย เดียวลืมหน้าตาตัวเอง
I can see Small Ben เอ้ย Big Ben
และแล้วในที่สุด ผมก็เจอจนได้ ร้านหนังสือการ์ตูน comic แต่ว่าผิดคาด การ์ตูนญี่ปุ่นมีแค่ชั้นเล็กๆ ชั้นเดียว ประมาณการ์ตูนที่ขายใน 7-11 บ้านเราน่ะ มีนิดเดียวเอง ที่เหลือเป็นการ์ตูนของอังกฤษทั้งหมดเลย แต่ก็ยังดีที่มีการ์ตูนที่ผมรู้จักนะ (ไม่แน่ใจว่ารู้จักเยอะไปเปล่า เพราะดูๆไป รู้ทุกเรื่องเลยมั้ง) แล้วก็มี ฟิตเกอร์ขายนิดหน่อยเท่านั้นเอง เรื่องราคาหนังสือ ที่นี่เหมือนญี่ปุ่น คือ ถ้ามาใหม่แพงมาก แล้วราคาก็จะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ ไม่เหมือนไทย ราคาคงที่ แต่ถูกมาก ที่นี่เล่มละ 500 บาท ไม่รู้อ่านแล้วจะบินได้หรือเปล่านะ เพราะไม่กล้าซื้อ
เจอแล้วๆ ร้านที่หามานาน
หน้าร้านก็เอาการ์ตูนชื่อดังมาขาย ว่าไปไอ้สตเบอร์รี่ 100% มันเก่ามากแล้วนิ
Watashi wa Lelouch vi Britannia.
จะมีใครเข้าใจไมนี่ >.<
ก็หลังจากที่เดินขาลาก เพราะไม่รู้ว่าไปทางไหน สุดท้ายก็เจอแค่ร้านเดียวเอง แถมเย็นแล้วด้วย ก็เลยเดินกลับ ระหว่างทางก็ได้เจอกับ โรงละคร และ china town ด้วย ก็เข้าไปเดินเล่นๆด้านในนิดหน่อย ก็เห็นคนเอเซียเดินกันให้วุ่นไปหมด ที่จริงก็อยากกินอะไรบ้างนะ แต่ไม่รู้ว่าจะกินร้านไหนดี เพราะไม่มีคนแนะนำซะด้วย ก็เห็นร้านบุตเฟ่ เต็มไปหมดเลยล่ะ ก็ราคาไม่แพงมากนัก เหมือนกินเล่นๆได้เลยล่ะ
โรงละคร แสดงสาว(ประเภท 2)เต้นกัน
ถ้าไม่เห็นป้ายนี่ เดินผ่านไปแล้วล่ะ
เมืองจีน ทำไมพี่มืดเต็มเลย
เห็นแบบนี้ค่อยดูเป็นจีนๆ หน่อย
ราคาไม่แพงมาก แต่ไม่รู้ว่ามีกติกายังไงนะ
แอบเข้ามาดูร้าน wasabi หน่อย เห็นว่าเจ้าของเป็นคนเกาหลีด้วย
อยากกินไรก็หยิบไปจ่ายตังค์ สำหรับราเมง ไปเติมน้ำที่แคชเชียร์
น่ากินเปล่า เห็นราคาแล้ววางแทบไม่ทัน
ไอติมราคาถูกๆ(มั้ง)
ก็หลังจากที่เดินในวันนี้เสร็จ สรุปว่าไม่ได้อะไรเลย ไม่เจออะไรที่ต้องการเลย เศร้าใจ แต่ก็กินไอติมแก้เศร้าก่่อน เดียวต้องกลับไปทำการบ้านมาใหม่ ครั้งหน้า ไม่พลาดแน่ๆล่ะ หึหึ
มันไม่ค่อยแข็งเลย
น้องอู๊ดนี่ช่างถ่ายรูปจิงๆ
ตอบลบวันหลังเที่ยวเมืองไทยในอังกฤษมั่งนะ
ภาพสวยดีจัง ได้ไก๊ด์แล้วเรา...ฮ่าฮ่าฮ่า...
ตอบลบไปเที่ยวให้ทั่วลอนดอนนะ... ถ้าเป็นไปได้ลองไปเมืองท่องเที่ยว
เมืองอื่นบ้างก็ดี เช่น StoneHenge , Lake District national Park , Windsor Castle
StoneHenge , Lake District national Park , Windsor Castle
ตอบลบอยู่ไหน