14/9/53

Study UK :14 สิ่งที่ผมพลาดไปใน UK

รสเด็ด แล้วก็อื่นๆ ที่เอามาเยอะเกินไป เซงเลย

เรื่องแรกเลย ก็คงเป็นเรื่องที่เอาผงปรุงรสมาเยอะเกินไป เพราะกลัวว่าจะไม่มีกิน ที่จริงเอามานิดหน่อย ผมว่าดี เพราะบางที่เราก็คงอยากกินอาหารไทยบ้าง (ที่นี่มีคนบอกว่า อาหารไทยจืดสุดๆ) แล้วก็ดีอย่างที่ว่าเราไม่ต้องปรุงอะไรมากๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง แค่ใส่ผงไปก็จบ แต่ผมเอามาเยอะเกินไปหน่อย



เสื้อก็เวอร์เกินไป

เรื่องต่อมาก็คงเป็นเรื่องเสื้อผ้า เพราะเอามาเยอะเกินเหมือนเดิม ที่นี่อากาศเย็น เลยไม่ค่อยมีเหงื่อเลย แล้วที่คิดว่าควรเอามาแทนเรื่องเสื้อผ้าก็คงจะเป็น น้ำยาดับกลิ่นมากกว่า  ส่วนตัวก็ลงทุนไปซื้อสเปรย์ดับกลิ่นเท้ามา ก็ดี ใส่ถุงเท้าทั้งวัน ไม่มีกลิ่นเลยล่ะ สบาย เดียวจะเปลี่ยนแปลงเรื่องเสื้อผ้านิดหน่อยล่ะ

เสื้อใส่นอนใส่ไปเรียน 2วันติด กางเกงใส่ไปเรียนสัก 3 วัน ส่วนกางเกงในเปลี่ยนทุกวัน (ใส่นอน แล้วก็ใส่ไปเรียนเลย 555) แล้วก็มีกางเกงนอนที่ใส่ทั้งอาทิตย์ไปเลย  555 ถุงเท้าใส่ซัก 2 วันเลย ที่นี้ก็ไม่ต้องเอาเสื้อมามากแล้ว

อีกอย่างที่เกินคาดคือ เรื่องที่กลัวผ้าไม่แห้งเพราะฝนตกบ่อย คืออากาศมันแห้งสุดๆเลย ผ้าก็เลยแห้งตามไปด้วยอ่านะ

ลืมอุปกรณ์การกิน ส้อม มีด จาน เพราะที่นี่แพงมากๆ แต่ก็ต้องซื้อมาด้วยอ่านะ เดียวทำอะไรไม่ค่อยได้

เรื่องการทำอาหาร ก็ซื้ออาหารสดมาเลยเพราะ เคยคิดว่าจะใช้เวฟ แต่มันก็ทำได้แค่ อบ กับ นึ่ง (มีวิธีอยู่) พอใช้กระทะ ก็ไม่สะดวกอีก ล้างยาก แล้วมาคิดๆดู ใช้เครื่องครัวของเขา ใช้จาน ช้อนส้อม ของเขา ไม่รู้ว่าสะอาดด้วยหรือเปล่า กลัวๆอยู่เหมือนกันเรื่องนี้ คิดว่าเดียวคงหาซื้อเป็นชุดของตัวเองดีกว่า

ส่วนเรื่องอาหาร ที่คิดเอาไว้ตอนแรกสุด

ทำอาหารเอง เอาเครื่องแกงจากไทยมาผสมน้ำ แล้วใส่เนื้อใส่ผัก สุดท้าย ไม่มีข้าวต้องมากินกับขนมปัง  แถมรู้สึกจานของเขาไม่ค่อยสะอาดอีก ก็เลยยกเลิกไป (ทำอยู่ 2 วัน)
เอามาโชว์ก่อน


สับไก่เป็นชิ้นๆแล้วต้ม


เอาที่เหลือยัดๆลงไป


ใส่ผง แล้วก็อย่าลืมใส่พริกด้วย ผงมันไม่มีพริกเลย


กินกับขนมปัง เศร้า

รอบสอง ผมเองก็ทำไม่ต่างจากเดิมมากนะ แค่เปลี่ยนจาก ต้ม มาเป็นทอดเท่านั้นเอง แต่รู้สึกไม่สะอาดเข้าไปใหญ่ เพราะกระทะมันไม่ค่อยดีเลย

ผงเดิม แล้วก็ ซอสพริก (พริกจริงๆนะ)


เอาผงกับซอล มาผสมกัน แล้วก็ใส่เนื้อไก่สับไปด้วย


จากนั้นก็เอาไปเทลงกระเท แล้วก็ทอด ใส่ผักตามลงไปทีหลัง


กินกะขนมปัง เศร้าจนน้ำตาแห้งไปแล้ว

รอบสามก็ซื้ออาหารแบบกึ่งสำเร็จรูปมา (ใส้กรอกแบบไม่สุกดี เห็นว่าที่ไทยไม่มีและที่สำคัญ ถูกสุดๆจากอาหารทั้งหมดแล้ว คำนวณมาแล้ว) แต่พอกินแล้ว แทบอ้วก เหมือนของที่สุกแต่ไม่สุก ไม่รู้จะอธิบายเป็นภาษาคนยังไงดี  แต่เอาเป็นว่า ผมทิ้งแน่ๆ
ไส้กรอก แปลกมากๆ ข้างในมันนิ่มจนเละเลย

ใส่เนยลงไปแทน 


ลองหั่นชิ้นเล็กๆมากินดูก่อน กลัวกินเปลือกไม่ได้ (มีเปลือกคล้ายพลาสติกอยู่)


อันเล็กๆ เป็นใส่กรอก ส่วนอันใหญ่เป็นขนมปัง ไว้กินด้วยกัน (เอามาอุ่นหน่อย)


กินกับผักใกล้เน่าด้วย อิอิ

รอบต่อมาที่คิดเอาไว้ (ยังไม่ได้ทำนะ) ก็คือไปซื้อไก่ที่ทำสุกแล้ว มีปรุงรสนิดหน่อย แล้วก็ขนมปัง (มีแล้ว) ผักอีกหน่อย (มีแล้วเหมือนกัน) แล้วก็จานสำหรับเวฟโดยเฉพาะเลย จะได้ไม่ต้องไปใช้ภาชนะรวมกับเขา ปลอดภัยชัวร์

เรื่องต่อมาก็เรื่องปลั๊ก ผมลืมซื้อปลักไฟไป เซงมากๆ เลยครับ ไม่รู้จะไปว่าใครเลยดี คือที่นี้มันเป็นปลั๊กใหญ่ ใหญ่มาก ผมเลยต้องไปซื้อใหม่ ถ้าที่ไหน 20 บาทยังมีเลยถ้ารู้แหล่งนะ แต่ผมมาซื้อที่นี่ จุกเลยครับ 6 ปอนด์ ประมาณ 300 บาทได้ กระอักเลือดพุ่งออกมาหน้าร้านเลย ช็อคสุดๆ แต่ก็ต้องซื้อมาด้วยเลือด T.T เศร้า

3 ความคิดเห็น:

  1. ปรับตัวได้ดีนิ ไอ้น้อง...

    ตอบลบ
  2. อยากรู้ว่าผงชูรสนี่เอาไปกี่ซองอะ กะวากลับไทยมาอีกรอบหัวล้านแน่ๆนะท่าทาง

    แล้วที่นั้นมีเห็ดเข็มทองปะจ้ะ
    ว่าแต่เห็ดกับแครอทนี่ราคาถูกหรอ ถึงได้กินบ่อยจังอ่า

    แล้วได้แสดงฝีมือต้มยำให้ host ลองชิมดูยัง? ชื่ออะไรนะ เซเรน่า หรา? แล้วสามีเค้าอยู่ปะ?

    ตอบลบ
  3. Panwasit ja mai aun leaw ror.
    Na song sarn mai mee kaw kin.

    ตอบลบ

^ 2 U the comment