ย้ายบ้าน ก็ย้ายที่อยู่น่ะละครับ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ตอนแรกที่ไปก็มีแค่กระเป๋าใบเดียวสีดำใหญ่ๆล่ะ แต่ไปๆมาๆ ก็เริ่มมีของเยอะขึ้นอีก เป็นกล่องใสบ้าง เป็นของกินอีก จานชามถ้วยแก้วอีกสารพัด ก็แค่ๆเยอะขึ้น แต่ทำไมเงินในกระเป๋ามันน้อยลงฟะ
ก็ตอนเช้า ผมก็จัดเตรียมแพ็คของเอาไว้ (ที่จริงก็ทำตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว) ก็ยัดๆใส่ถุงให้หมดอย่าไปคิดอะไรมาก แล้วผมก็ไปขอถุงใหญ่ๆ เพราะว่าผมไม่มีขนาดนั้น แล้วก็ได้ถุงใหญ่มากจริงๆ คือถุงขยะ แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไร ก็แพ็คๆให้เรียบร้อย แล้วก็ร่ำลาแบบธรรมดาๆ เท่านั้นเอง (น้ำตาแห้งมาหลายปีแล้ว)
ผมก็ค่อยๆแบกกระเป๋าเดินทางแล้วก็ถุงขยะขนาดใหญ่ ไปตามถนน ยังดีที่มีกระเป๋าล้อ ลากไปตามทางได้เรื่อยๆ เพราะที่นี่ออกแบบถนนมาเพื่อจักรยาน รถเข็น รถเด็ก ให้ไปได้ตามทางสบายๆ ไม่เหมือนเมืองไทยที่มีทางขึ้นลงของรถจักรยานที่โครตชัน แบบว่าไม่สร้างน่าจะรู้สึกดีกว่านะ แต่ผมก็มีปัญหานิดหน่อย ล้อมันเล็ก เวลาเข็นเลยชอบไปติดร่องติดช่องทางต่างๆเยอะไปหน่อย
แล้วผมก็ยกกระเป๋าขึ้นรถเมล์ รถเขาก็ดีนะจอดรอแถมโหลดรถมารับเลย หมายถึงว่ารถเมล์มันสามารถลดระดับตัวเองได้ เพื่อให้คนแก่ รถเข็น ขึ้นได้ง่ายขึ้น ประมาณนั้น ผมก็ยกๆเข้าไป รถแปปๆก็ถึงสถานีรถไฟ ผมก็ลากมาเรื่อยๆ แบบว่าแทบแย่ หนักมาก ไม่น่าเอามาทีเดียวเยอะๆเลย น่าจะไปกลับซัก 2 รอบ จะได้เบาๆ แต่คิดอะไรไม่ได้แล้วล่ะไม่ทันแล้ว
ก็ยกลงบันไดลงไปที่่รถไฟ หนักมากๆครับ กว่าจะยกมาหมด (ก็ค่อยๆยกทีละถุง ลงมาที่พักบรรได แล้วก็กลับไปยกอีกถุง เพราะกลัวหายไป สลับไปมาจนลงไปที่พื้นได้) นึกถึงพี่คนนึงที่เล่าให้ฟังว่า ต้องมีรถมารับเลย ถึงจะย้ายได้ เพราะของมันมากเกินไป แต่ก็เสียตังค์ขนของมากสุดๆ ประมาณว่าไม่คุ้มเลยล่ะ
เหนื่อยสุดๆ แต่ยังยิ้มได้
ผมก็นั่งรอรถไฟมา แล้วก็เตรียมแบกขึ้นรถไฟ ก็มีคนมามองผม ประมาณว่า"เอาขยะไปขายหรอ" ผมก็มองกลับไป "ถุงขยะห่อทองเคยเห็นอ่ะป่ะ" มันก็ชวนเมียมันมองมาอีก "คนนั้นน่าสงสารน่ะ" ผมก็มองไปอีกรอบ "สงสารตูก็เอาตังค์มาดิ" มันหันกลับเลย ชิ
รถไฟมาผมก็ยกของขึ้นรถเลย แบบว่าไม่เกรงใจใครล่ะ ไม่หลบโดยกระเป๋า 20กว่าโหลทับเท้าแน่ คือผมไม่มีอารมณ์มาเกรงใจแล้วล่ะ เหนื่อยโครตๆ ขึ้นมาแปป ไม่มีที่นั่ง ผมก็นั่งบนกระเป๋านี่ล่ะ แล้วก็รู้ว่า ที่จับเข็นมันงอ แล้วก็ปิดลงไม่ได้ด้วย กดไม่ลง เหนื่อยใจเลย
แต่ที่ๆผมย้ายไป มันต้องเปลี่ยนรถไฟ อีกรอบนึง เพื่อไปอีกสายนึง เครียดครับ เจอบรรไดธรรมดา เครียดมาก กว่าจะขนลงไปได้แทบแย่ ยิ่งไปกว่านั้น ถุงมันจะขาดด้วย ถุงขยะจะเอาอะไรกับมันมากล่ะ เดินไปซักพัก ก็เจอบันไดเลื่อน ดีใจไส้แทบเลื่อนเลย มันหนักมากมาย
กว่าจะมาถึงสถานีที่จะลง ผมก็ลงนรกไปอีกหลายรอบเลยล่ะ รู้แบบนี้ คงเตรียมไปหาซื้้อกระเป๋าใหม่เลยดีกว่า ไม่เอาแล้ว แบบนี้
แนะนำ กระเป๋าเดินทางที่มีล้อใหญ่ๆ ประมาณมากกว่า 2 นิ๊ว แล้วก็มี 4 ล้อเลย จะดีมาก เพราะไปต้องเอียงเพื่อลากเลย เพราะเวลาเอียงเราต้องรับน้ำหนักของทั้งหมดด้วย นอกจากนั้นการลากก็มี 2 แบบ คือแบบลาก แบบนี้ควบคุมทิศทางง่ายมาก แต่ต้องใช้แรงมากเพราะเวลาลาก ต้องเสียแรงยกน้ำหนักไปด้วย แต่ถ้าเข็นไปข้างหน้า ก็จะไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ควบคุมทิศทางลำบากพอสมควรเลยล่ะ
รู้หน่อยก็ดีว่ารถเมล์สายไหนวิ่งผ่าน
แล้วผมก็ลากมาจนถึงบ้านที่พัก แบบว่านะ ไม่ได้จัดของเลย หลับไปเลยล่ะ เหนื่อยสุดๆ กว่าจะมาถึงได้นะ ก็ไม่มีอะไรมากเลย แต่ผมยังคิดอยู่เลย แล้วตอนกลับบ้านจะทำไงดี สงสัยได้ทิ้งของไปเกือบหมดแน่ๆเลยล่ะ
get a new home!!
ยากลำบากจริงๆ น้องอู๊ด
ตอบลบเหมือนกลับจากมหิดลขึ้นสาย 28 แบกพัดลมแบกปลา เหอๆ