หลังจากทำทุกอย่างเสร็จก็เตรียมเปิดร้าน ก็ไม่ยาก เดินไปเปิดป้ายไฟหน้าร้าน ร้านก็เปิดแล้ว แล้วก็หรี่ไฟลงให้เกือบจะมืดๆ แบบโรแมนติกอ่ะนะ ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจนะว่า จะหรี่ไฟทำไม เพราะว่าถ้าต้องการที่จะให้คนกินอาหารมากๆ ต้องอยู่ในที่สว่างๆ แล้วก็ ถ้าร้านสว่างๆ ก็จะเห็นสีสรรอาหารชัดเจนด้วยนะ น่าทานกว่าเยอะ ที่คิดไว้มีเหตุผลเดียวเลยที่ทำให้ต้องเปิดร้านมืดๆ คือจะได้มองไม่ชัด ทีนี้ก็จะไม่ค่อยเห็นสิ่งผิดพลาด อิอิ
แปปนึง อาหารคนเสริ์ฟก็จะขึ้นมาใหกินกัน ก็เป็นอาหารที่จะได้กินฟรีก่อนที่จะเริ่มทำงานนะ ก็แล้วแต่แม่ครัว วันไหนอารมณ์ อาหารก็อร่อย วันไหนหงุดหงิด เจ้แกก็ยัดพริกเต็มที่เลย ไฟแทบลุก วันดีคืนดีก็ขึ้นมาถาม อยากกินไรดีวันนี้ วันที่เราคิดได้ก็ไม่ขึ้นมาถามซะงั้น เอาแน่นอนไม่ค่อยได้หรอก แต่ก็อร่อยดี
บางทีโชคร้ายหน่อยกินอาหารยังไม่ทันหมด ลูกค้ามาแล้ว เราก็เคี้ยวไป take order ไป ถ้าโชคดีเจ้าของร้านไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร บางที่เจ้าของร้านก็ว่าด้วยก็มี (แหมกินไปรับ order ไปก็แบบนี้ล่ะ อิอิ) แล้วก็ต้องเอาอาหารไปเก็บไว้ก่อน เดียวค่อยกินที่หลัง (มานั่งหลบลูกค้าแดก)
คุยกับพี่เค้าเรื่องที่ว่า การคุยกับแขก ที่จริงก็ไม่ได้คุย แต่ตอนที่ผมพูด พี่ๆเค้ารับไม่ได้ ก็เลยดึงมาสอนภาษาอีกรอบ เช่นว่า ถามว่าจะกินอาหาร Do you want something? พี่ลากไปเลย อีกคนไปขอโทษแขกเขา
พี่เตย : ปัญ แกไปพูดอะไรกับแขกมา
ผม : ก็ถามไง เอาอาหารอะไรดี ผิดด้วยหรอ
พี่เตย : Do you want something? รู้ไมแปลว่าอะไร
ผม : ก็ คุณต้องการอะไร ไง
พี่เตย : เออ แต่มันไม่สุภาพ มันประมาณว่า มึงจะเอาอะไร มึงจะแดกอะไร ประมาณนั้น
ผม : แล้วให้ผมพูดอะไรอ่า
พี่เตย : มา เดียวพี่บอกให้หมดเลยล่ะกัน
แล้วพี่เขาก็จดมาเป็นใบเลย แล้วก็เอามาให้ผมท่อง ก็ประมาณว่า
=================================================
ลูกค้ามานั่งแล้ว ดูเมนูอยู่ ให้เข้าไปถามว่าจะเอาน้ำอะไรหรือเปล่า
Would you like some drink today?
แล้วก็พอเอาน้ำให้เสร็จแล้ว ก็ถามต่อว่าจะเอาอาหารอะไร
Would you like to order today? (sir & madam)
เวลาเอาอาหารให้ น้ำให้ เมนูให้ก็
Here you are.
เวลาแขกกินอยู่ ก็เข้าไปถามนิดหน่อยด้วย
Everythink is allright?
บางที่เห็นแก้วไม่มีน้ำ น้ำหมด ก็เข้าไปถามอีกว่าเอาเพิ่มไม
Would you like some more drink?
พอแขกกินเสร็จ ไม่ว่าจะเป็น starter หรือ main ก็ถามก่อนเก็บด้วย
Have you finished your food?
ก่อนที่จะคิดตังค์ ก็ถามๆหน่อยว่าจะเอาอะไรเพิ่มอีกไม
Would you like anything else?
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พูดเร็วๆ แล้วก็เน้นคำ เช่น Order drink เพราะแขกที่ฟังจะได้รู้ว่าเราต้องการจะถามอะไร แล้วก็เวลาพูดผิด แขกจะได้ไม่รู้ แถมดูดีด้วย ฮ่าๆ
====================================================
ผมถามด้วยว่าทำไมให้พูดแค่นี้ มันซ้ำกันตลอดเลยนะ จะดีหรอ
พี่ก็ตอบกลับมาง่ายๆว่า เราพูดซ้ำ แต่แขกเขาเปลี่ยนคนตลอดนะ ดังนั้นแขกไม่รู้หรอกว่าเราพูดซ้ำน่ะ จิงป่ะ
ผมก็นั่งท่องเลยไปเรื่อยเลย พอแขกคนใหม่มา พี่ก็ให้ผมเข้าไปพูดเลย จัดไปเลย แขกนั่ง เอาเมนูให้ ถามเลย เอาน้ำอะไร
Would you like drink ?
รู้ว่าพูดผิดนะ แต่ช่างมัน เอาแค่สื่อสารได้ก็พอแล้ว
แขกก็พูดมา อะไรไม่รู้ เราก็ถามอีกรอบ again plase พี่ก็เข้ามาเลย พูดพาดันสิค่ะน้อง (pardon) ได้ ถามให้อีกรอบ แขกก็พูดไม่รู้เรื่องเลย แล้วผมก็พึ่งรู้ทีหลังว่า บางคนภาษามันเพี้ยน เหมือนบ้านเรา แต่ละภาคก็พูดไม่เหมือนกันน่ะล่ะ คือเขาสั่งน้ำ water แต่เขาพูดสั้นๆ จากคำเต็มๆ
May I have a bottle of water.
เป็นคำสั้นๆ (เอาคำมาเชื่อมกัน แล้วตัดตัวสะกดออก)
Ma ave bo'le o wa'er .
คือมันตัดหมดเลย เลยฟังไม่รู้เรื่องน่ะ ไม่ได้โง่นะ แค่ไม่ฉลาด อิอิ
ไวท์ เรื่องไวท์ที่นี่มีมากมาย คือเวลาสั่งไวท์ ถ้าไม่ใช่ไวท์ขาวหรือไวท์แดง ก็ไม่ต้องถามว่าจะเอาเป็นแก้วหรือขวด เพราะขายแต่เป็นขวดๆ ก็แขกสั่ง เราก็ต้องเอาไปให้เขาดูก่อน แล้วก็เปิดให้เขาดูด้วย (ไม่เคยเห็นแขกสนใจเวลาเปิดขวดเลย) ก็นะ ผมเองก็เปิดขวดพลาดไป 2 ครั้ง (หมายถึงจุกค๊อกขาด) ผมว่าเปิดไม่อยากเท่าไร ตอนนี้เปิดมาเกือบ ร้อยขวดแล้วมั้ง กินไวท์กันอย่างกับน้ำเลย คนที่นี่ แต่ก็ไม่เมานะ
น้ำที่นี่มี 3 แบบที่เป็นน้ำเปล่า
แบบแรกก็คือ tap water หรือง่ายๆ น้ำก๊อก น้ำนี้ก็มาจากก๊อกโดยตรงเลย ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แน่นอนครับ ฟรี
แบบที่ 2 spring water หรือน้ำแร่ ก็ทำให้มันสะอาดขึ้น(หรือเปล่าไม่แน่ใจ) แล้วก็มาบรรจุขวดขาย คิดเงินตามขวดเลย
แบบที่ 3 sparkling water คล้ายน้ำโซดา แต่ไม่เหมือนที่บ้านเรา ที่นี่ไม่ได้ซ่าขนาดนั้น ตามปกติ ก็มักจะใส่มะนาว Lemon ไม่ใช่ lime นะ เป็นมะนาวสีเหลืองๆ ลูกใหญ่ๆ ลงไปด้วย (เคยกินแล้ว ไม่เห็นอร่อยเลย)
ที่นี่ก็ต้องระวังด้วยว่าแขก จะกินอะไร เอาไปให้ผิดจะมีปัญหายาวเลยล่ะ คนที่นี่เรื่องมาก
น้ำผลไม้ สำหรับที่ร้าน ก็เอาน้ำผลไม้กล่องให้แขกดื่ม ก็คงมีแค่น้ำส้มมั้ง ที่เวลาเทให้แขก ต้องใส่แก้วเล็ก เพราะมันแพง แล้วก็เวลาพูดก็ต้องระวังด้วย คำว่า จุ๊ย มันพูดยาก วันนั้นผมพูดไป เด็กหัวเราะเลย (โชคดีที่เสริ์ฟไปแล้ว ไม่งั้นเอาแก้วคว่ำใส่หัวไปแล้ว)
อยากจะบอกกับแขกหลายๆคนนะ ว่าไม่ต้องพูดสุภาพมากกับผมก็ได้เพราะบางครั้งก็มีแขกที่สุภาพมากๆ ประมาณว่า เวลาผมไปถาม จะกินน้ำอะไร แขกตอบได้ยาวมากๆ คือ ฟังไม่รู้เรื่องอะไร ประมาณว่า รบกวนขอน้ำดื่มสักแก้วได้ไหมครับคุณเด็กเสริ์ฟ ผมต้องถาม pardon ไปอีกหลายรอบเลย จนเขารู้สึกตัวได้ ว่าเด็กเสริ์ฟโง่ แล้วก็พูดมาห้วนๆ water plase เป็นอันเข้าใจเลย อิอิ
เรื่องเมนูที่ร้านอีก สุดยอดมากๆ คือคิดได้ยังไง สำหรับร้านที่ผมไปทำนั้นก็ทำเมนูแบบภาษาอังกฤษ มันก็แน่อยู่แล้วล่ะ แต่ชื่ออาหารดันเป็นชื่อไทยทับศัพท์ไปเฉยเลย ประมาณว่า pad ped >> ผัดเผ็ด อ่านอยากมาก คือตอนที่แขกสั่ง ผมต้องมานั่งสะกดให้แขกฟัง บางทีแขกก็ช่วยอ่านให้ด้วยก็มี ไม่รู้คิดได้ยังไง ผมก็สงสัยนะ ทำไมไม่เขียนชื่อภาษาไทยไปข้างๆ จะได้ไม่มีปัญหา คำตอบที่ได้คือ มันดูไม่อินเตอร์ ผมก็ไม่เข้าใจอ่ะนะ ที่บ้านเรา ร้านไหนมีเมนูอังกฤษ ดูอินเตอร์ แต่ที่นี่อังกฤษ ผมว่าร้านไหนมีเมนูภาษาไทย ไม่อินเตอร์กว่าหรอ อิอิ
นอกจากนั้น ก็จะมาบางตัวที่อ่านยาก เขียนผิดประจำ คิอ pla เพราะอ่านได้ 3 แบบเลยคือ ปลา ป่า พล่า ก็มาจากเมนู ปลาทอด แกงป่า พล่ากุ้ง วันนั้นผมก็เขียนไป แกงปลา แม่ครัวขึ้นมาถามเลย มีด้วยหรอ แกงปลา ปวดหัวเลย แล้วอย่างเมนู ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมมพาน เป็นชื่อเมนูที่ยาวสุดๆ อ่านอยากมากๆ เหนื่อยใจ
บางที่แขกที่นี่ ชอบคิดว่า ถ้าคนนี้มาเสริ์ฟที่โต๊ะเขา เวลาต้องการอะไรก็จะเรียกแต่คนนั้นมาตลอดเวลาเลย วันนั้นพี่เตยเค้าเสริ์ฟอาหารเสร็จแล้ว ก็ไปเปลี่ยนชุดกลับบ้าน (ไปเที่ยวมากกว่า) ก็เดินไปเปลี่ยนอยู่เกือบ 10 นาที พอขึ้นมา แขกถามว่า กลับข้าวยังไม่มาอีกหรอ คือพี่เขาเสริ์ฟไปไม่ครบน่ะ เห็นแขกนั่งกินข้าวเปล่า รู้สึกผิดอย่างแรงเลย เศร้าเลย
จะว่าไป อาหารแต่ละชาติ วิธีการกินก็ไม่เหมือนกันนะ ผมเห็นคนที่นี่กินอาหารไทย แล้วขำมากเลย พวกที่มาเป็นกลุ่มๆ แล้วก็สั่งมาแชร์กัน ก็มีบางคนที่เอาของมารวมๆกันแล้วค่อยกินที่เดียว คือว่า เอาข้าวผัดไข่มาเทลงใส่จาน แล้วก็ใส่แกงเขียวหวานลงไป แล้วก็ใส่ผัดไทยลงไปด้วย ตบท้ายด้วยไก่ผัดน้ำมันหอย รวมกันในจานเดียวเลย เห็นแล้วอึ้งเลย ทำไปได้
แล้วก็มีหลายครั้งที่ ฝรั่งหน้าตาดี เข้ามากิน ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง คือเห็นหน้าตา แล้ว รายการอาหารมันแม็ตกันเลยอ่า แถมไม่ใช่ช้อนด้วย ใช้มือกินหน้าตาเฉยเลย ผมเห็นแล้วอึ้งเลย
หนุกแฮะ .!... คราวนี้ได้ใช้ถาษาจริงๆ กว่าจะกลับมาก็คงพูดเป็นต่อยหอย เดี๋ยวนี้เขียนสำนวนคมขึ้นมาก
ตอบลบสงสัยว่า ... ที่เทอาหารรวมกันน่ะ เขาเอาช้อนคนให้เข้ากันไหม.?
นุกจังรออ่านทุกวัน
ตอบลบน้องหมูนี่ ฮาดี speak English คล่องดีนะ อิอิ
ตอบลบ