12/9/53

Study UK :12 วันแรกที่ UK

ตอนเช้าที่ไหนไม่รู้ บินอยู่

ตื่นเช้ามาบนเครื่องบินที่กำลังลอยอยู่ พนักงานเขาปลุกพอดี เพื่อที่จะได้เสริฟ์อาหารเช้า ก็มีให้เหลืออีก ระหว่างไส้กรอกเนื้อลูกวัว กับ ไส้กรอกเนื้อไก่ หึหึ ผมก็จัดเนื้อลูกวัวมาเลย อยากกินอะไรแปลกๆพอดี แล้วมีไข่กวน ขนมปัง อื่นๆอีกนิดหน่อบ อาหารอร่อยดีครับ ก็สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก



หนาวนิดหน่อย แต่กลัวเป็นหวัด


ไส้กรอกขาวๆน่าล่ะ เนื้อลูกวัว อร่อยๆ

ก็หันมามองปีกเครื่องบินเพลินๆ ก็เห็นแผ่นดินบ้าง เห็นทะเลบ้าง ก็เร็วดีนะครับแปปก็ถึงแล้วไม่ต้องรีบเลย หึหึ ก็นั่งเพลินๆ แอบถ่ายรูปบ้าง ก็ถ่ายมาเต็มเลยล่ะ แล้วมาถึงที่ UK แต่ช้าไปเกือบครึ่งชม. น่ะ เพราะเหมือนลงไม่ได้หรือบินเร็วไป ก็เลยบินวนๆบนฟ้าอยู่พักใหญ่ๆเลย แต่ก็ไม่ว่าอะไรมากเพราะที่เสียเวลาจริงๆไม่ใช่ที่นี่
ท้องฟ้าสวยดีน่ะ (คิเร)


เห็นเมื่องแล้ว
เหมือนหมู่บ้านมากกว่านะ


จะว่าไปตอนที่จะมาถึงก็เห็นบ้านคนจากบนเครื่องบิน ที่ UK บ้านเหมือนหมู่บ้านมากกว่า เพราะเป็นบ้านไม่เกิน 3 ชั้น ส่วนใหญ่ 2 ชั้นเอง แล้วก็มีถนนมากมายแปปผ่านทุกหน้าบ้านเลย ส่วนบ้านก็เป็นสไตล์เดียวกันมากกว่า เพราะว่าสี รูปร่่างคล้ายกัน นอกจากนั้นโดยรวมแล้วก็จะมีสีเขียวจากต้นไม้ สีแดงจากตัวบ้านด้วย ก็ดูเหมือนเป็นระเบียบดี

ขณะเครื่องลง


เห็นลำนี้แล้วรู้สึกสนใจเพราะไม่เคยเห็นแบบนี้ (2 ชั้นทั้งแถบ ที่เราเคยเห็น2ชั้นครึ่งนึง ชื่อจัมโบ้)

พอเครื่องลงแล้วผมก็ออกจากเครื่องก็เดินมาตามทางเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลยนอกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองก็รอนานมามาก เกือบ 1ชมครึ่งกว่าจะถึง สงสารคนที่มารับ เพราะว่าผมนัดไว้ตอน 7:30 แต่กว่าจะเสร็จก็ 9:30 แล้วก็ดันมีปัญหาอีก คนที่ตรวจคนเข้าเมืองให้ผมไปเขียนใบอะไรก็ไม่รู้ อ่านก็แทบจะไม่ออก โชคดีที่ช่องถูกผิดด้านล่างอ่านออกนะ เพราะอ่านคร่าวๆไปแล้ว เหมือนจะถามเรื่องไข้หวัดหรือป่วยประมาณนี้ ถ้าบอกถูกหมดเลยได้กลับประเทศชัวร์ หึหึ โล่งอกไปเรื่องนึง

ช่วงที่รอก็คุยกับพี่กิ๊บเค้า ก็คุยหรือบ้านที่พักว่าจะไปยังไง คุยเรื่องบัตร oyster (เป็นบัตรที่สามารถใช้ขนส่งคือ รถเมล์ และ รถไฟใต้ดิน ก็สะดวกดี คิดว่ากว่าประเทศไทยจะมี ผมคงตายไปแล้วซักรอบนึง)

หลังจากนั้นก็ลาพี่กิ๊บที่มีเพื่อนมารับไป ผมก็ออกตัวคนเดียวแล้ว ปกติในไทย ผมไม่มีปัญหาเวลาอยู่คนเดียวในที่ต่างถิ่นนะ เพราะหน้าด้านถามทางได้หมด แต่ที่นี่ จะถามใครดี ไม่รู้จักซักคนเลย เศร้า เดินไปมองไปหาป้ายคนที่จะมารับ ไม่รู้ยังรออยู่หรือเปล่า เกือบ 2 ชม พอเจอก็ดีใจครับ พี่เค้าคงหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ก็ยังยิ้มอยู่ คงรู้มั้งว่าเกินอะไรขึ้น
พี่ที่มารับผมที่รออยู่ 2 ชม


นึกว่าคันสีเทาซะอีก อิอิ (เบนซ์มารับเลย)

หลังจากนั้นก็พอไปที่โรงจอดรถครับ ที่นี่เก็บตังค์แปปๆนะ เพราะที่ไทยเหมือนต้องจ่ายตังค์ที่ทางออกเลย แต่ที่นี่จ่ายตีงค์ก่อนขึ้นรถ ไม่รู้ระบเป็นอย่างไง อยากถามแต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เซงเลย
ออกจากสนามบิน

ก็ขึ้นรถไปพี่เค้าก็ถามมาหลายเรื่อง แนวนอน ก็ต้องถามว่าทำไมมาช้า (ปกติต่างประเทศจะรักษาเวลามาก ไม่เหมือนคนไทย) ก็อธิบายแบบหยาบๆสุดๆเพราะไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษ ก็นั่งจะพอเข้าใจมั้ง ก็ถามมาเรื่อยๆ จนนึกว่าสัมภาษณ์งานเราหรื่อเปล่านี่ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ เราก็คุยๆกับเขาไปเรื่อยๆ ก็ขำนะ เขาถามว่า มาทำอะไรที่นี้ ตกลงไม่รู้หรอว่ามาเรียนน่ะ แล้วก็ถามนู้นนี่ ผมก็ตอบแบบมั่วนิดหน่อย
ดูบ้านเมืองเขา


เห็นรถเมล์ 2 ชั้น นึกว่า harry potter 

ก็มีเรื่องที่ว่าทำงานอะไรด้วย ผมก็บอกไป เตะฝุ่น(ไม่มีงานทำ) แล้วก็รอกลับไปเป็นทหาร เขาก็งง เป็นทำไม ผมก็เลยบอกไป(ไม่ค่อยจะดีเท่าไร) แล้วก็เรื่องความร้อน เขาบอกว่าที่นี้ร้อนสุดๆก็ 30 องศา เวลาหนาวก็หิมะตก ประมาณ 2-3 เดือนได้ นอกจากนั้นก็คุยเรื่องอื่นๆอีกเยอะ ถามเรื่องอาหารด้วย ผมก็บอกไปว่ากินได้หมดล่ะ เขาก็เลยถามถึงเนื้อที่กิน ผมงงเลย เขานึกว่าผมกินงูด้วย หึหึ

พอมาถึงที่บ้านที่ผมจะได้พักเป็นเวลา 1เดือน ผมก็เห็นบ้านขนาดใหญ่พอสมควร คิดว่าเป็นเหมือนหอพัก คงมีคนที่มาอยู่แบบผมบ้างล่ะ เพื่อจะได้มีเพื่อน คิดผิดครับเพราะที่จริงเจ้าบ้านมีแค่ห้องเล็กห้องนึง
ที่ที่ผมจะได้อยู่อีก 1 เดือน

ก็พอมาถึง เจ้าบ้านคงหลับอยู่ กว่าจะมาเปิดได้เกือบ 10 นาที ผมเองก็รออยู่ โชคดีที่ผมเองได้เห็นรูปของเขาในเน็ตแล้ว ก็รูป ผู้หญิงผิวดำ ผมฟู สุดๆ แล้วก็ลูกชายเขา อายุซัก 8 ขวบได้มั้ง ก็ได้คุยกัน รู้สึก family สุดๆ และก็ active เกินไปนิดหน่อย แต่ว่าไปคนที่ UK ก็แบบนี้นะ คนไทยชอบที่จะอาย ไม่ค่อยยุ่งกลับใครเท่าไร

ก็เข้ามาในบ้านเป็นบ้านแคบๆ มีทางเดินนิดหน่อย ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น แล้วก็ห้องนอน แล้วก็ห้องนอนผม ผมเองก็รู้สึกดีนะครับ เพราะปกติไม่ชอบห้องใหญ่ๆ ยิ่งเป็นพวกจิตนาการสูง แบบว่าสร้างผีขึ้นมาเอง แล้วก็กลัวเอง บ้าไปแล้ว บางทีคิดไปว่าผีมาบีบคอหายใจไม่ออกอีก ก็เป็นห้องเล็กๆ ประมาณ  1.8 ม กับ 2.5 เมตรได้ ก็ไม่มีอะไรมากมานเลย

ก็คุยกับเขาก่อนแล้วก็เอาคอมมาเปิด บอกพ่อแม่ แล้วก็แฟน ว่ามาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว (เกือบได้กลับบ้านด้วย) แล้วก็ขึ้นเฟสบุ๊คอีก ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากว่าปลั๊กที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา อันใหญ่มากๆ (ลองไปหาปลั๊กเครื่องซักผ้าดูสิ) ก็เลยเข้ามาในห้องมาจัดของนิดหน่อย แล้วก็เตรียมตัวออกไปซื้อของ เพราะ creanna (ชื่อเจ้าของบ้าน) จะไปข้างนอกพอดีด้วย
พึ่งรู้ รถที่ผ่านหน้าบ้านที่กรุงเทพ เบอร์ 39 ผ่านด้วย รู้งี้นั่งรถ 39 มาอังกฤษดีกว่า 8บาทเอง

ก็ออกมาเดินไปส่งลูกชายเขาเสร็จก็เดินไปห้าง เกือบ 2 กิโลได้มั้ง แต่รู้สึกไม่ไกลมาก เพราะอากาศมันเย็น สบายดี นอกจากนั้นก็ยังได้คุยเรื่องราวต่างๆอีกเยอะเลย ก็พอคุยได้ ผมรู้สึกว่าคนไทยคุยไม่ค่อยได้ก็มีไม่กี่อย่างหรอก

อย่างแรกๆก็กลัวว่าจะเรื่องกลัวพูดผิด สำคัญมากๆเลย เพราะถ้าไม่พูดมันก็จะไม่ถูกซักที แต่ถ้าพูดแล้วผิด ก็จะรู้ว่าผิด จะได้ไม่พูดอีก แล้วก็เรื่อง แกรมม่า เอาเข้าจริงผมเองก็มั่วหมดล่ะ เพราว่าเอาแค่พอรู้เรื่องก็ได้แล้วล่ะ แล้วสุดท้าย ก็เรื่องอาย ก็นิสัยคนไทยอยู่แล้วอ่านะ

ก็ไปซื้อของ ที่นี่ตึกสูงๆไม่ค่อยจะมีเลย ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนกัน พอถามไปเขาก็พยายามตอบมา แต่ไม่เข้าใจเลย เศร้า หลังจากนั้นก็ได้ซื้อปลั๊ก มาเพิ่ม เพื่อที่จะได้ชาร์ต note book ได้ ก็แพงมาก ประมาณเกือบ 300 บาทเลย ที่ไทยแค่ 20 บาทเอง เศร้า ดูเหมือนจะผลิตในไทยซะด้วย เศร้าสุดๆ แล้วก็ซื้อบัตร Oyster มาด้วย 1 สัปดาห์ 1000 บาท แพงมากเพราะเป็นราคาคนธรรมดา แต่ก็ต้องซื้อไปก่อน ไว้ไปซื้อที่เรียนอีกทีนึง จะได้ประหยัดๆหน่อย
ห้างที่ไปดูน่ะ



นอกจากนั้นก็ไปดูโทรศัพท์ด้วย แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยขอยกเลิกไปก่อน เพราะเดียวค่อยไปหาเพื่อนที่เป็นคนไทยที่โรงเรียนก่อนแล้วค่อยให้เขาช่วยซื้ออีกทีนึง ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเลย ไม่มีโทรศัพท์ใช้ เพราะปกติใช้โทรศัพท์อยู่ทุกวัน พอไม่มีรู้สึก อ้างว้าง

พอกลับมาผมก็นอนพักยาวเลย แบบว่าหลับไปเกือบ 3 ชม เลย เหนื่อย ปกติไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไร ก็เลยเหนื่อย จากที่เดิน แล้วก็ที่สนามบินด้วย บนเครื่องบินอีก พอตื่นขึ้นมาอีกทีนึงก็ออกไปข้างนอกอีกรอบ (ก็ถามเรื่องที่อยู่ของสถานีรถไฟ แล้วก็จำทางกลับได้อยู่)

ก็ออกรอบนี้ก็เดินไปดูสถานีรถไฟใต้ดินก่อนเลย ก็เดินไปเรื่อยๆชนกับเด็กที่นี่นิดหน่อยก็ขอโทษไป แต่รู้สึกเด็กที่นี่จะเอาแต่ใจ แล้วก็ดูโกธรง่ายด้วยนะ ไม่รู้เพราะอะไร แค่ชนนิดหน่อย(กระเป๋ามันโดน) หันมาอย่างอาฆาตเลย เอาเถอะ ไม่อยากยุ่งด้วยอ่านะ
สถานี tube


เกือบ 10สายได้ มั้ง ที่เมืองไทยเห็นว่าอีกห้าปีจะผ่านหน้าบ้านผม 
เมื่อ4ปีทีแล้ว ตอนนี้กยังบอกเหมือนเดิม อีก 5 ปีจะมาถึง

หลังจากนั้นก็ไปซื้อของที่ห้างที่นู้น ก็เดินไปเทียบราคาไป เรื่อยๆก็เพลินดีนะ บางอย่างแพงมากๆ เช่นปลา ไม่รู้จะแพงไปไหน เนื้อไก่เนื้อหมู ขาย เป็นกิโลกัน แต่เนื้อปลา ขายเป็นขีดๆแทน ก็ไม่รู้ว่าทำไมแพงอ่านะ เพราะ UK เป็นเกาะ มีทะเลล้อมรอบเกาะเลยนิดนา แล้วก็พืชผักราคาถูกพอสมควร แต่รู้สึกคนที่นี่จะไม่ค่อยกินกันด้วย ส่วนใหญ่ก็ ขนมปัง เนย ชีล ซะเยอะ ก็เลยอ้วนเอาๆ
ที่ซื้อของกินมา ราคาไม่แพงมาก ถ้าไม่เลือกกิน
กดเงิน ไม่รู้ว่ากดได้หรือเปล่านะ City  Bank

แล้วก็พอผมทำธุระเสร็จแล้ว กลับมาที่บ้าน ก็ซื้อของมาเยอะพอสมควร เกือบ พันบาทเลย ก็แพงบ้างถูกบ้างอ่านะ ดูในรูปเอาเองล่ะกัน บางทีก็ไม่รู้ว่าเมืองไทยราคาเท่าไรเหมือนกันด้วยล่ะ
แอบถ่ายรูปในห้างมานิดหน่อย กลัวโดนว่า


ไส้กรอกดำ
เพิ่มเห็นแดด ตอนเย็นนิเอง

จากนั้นก็เริ่มลงมือทำอาหารแบบง่ายๆ แปลกๆ ก็ตลกดี กินได้ก็พอแล้วล่ะ อร่อยๆ
ที่ซื้อมาทั้งหมด ก็มี สตอเบอร์รี่ สันในไก่ เห็ด กล้วย ช็อคโกแล็ต น้ำ ขนมปัง แครอท








เริ่มทำอาหาร ก็ต้องเตรียมของ


สับไก่ก่อนเลย แล้วก็เอาไปเวฟ


หั้นผักที่จะกินด้วยนะ


พอไก่สุดได้ที่ก็เทน้ำทิ้ง แล้วก็ใส่ผักเข้าไปผสมด้วย


แล้วก็ที่สำคัญ ก็ใส่เครื่องปรุงด้วยนะ (พึ่งรู้ว่า มันไม่เผ็ดเลยต้องไปซื้อน้ำพริกทีหลังอีก)


ทุเรศจริงๆ ลืมไปไม่มีข้าวนิดหว่า กินต้มยำกับขนมปังไปก่อนก็ได้


ฉากนี้ฮามาก เพราะถ่ายแบบตั้งเวลา 10 วิ ช่วงที่กำลังถ่ายก็เลย ค้างรอถ่าย 
Creanna ไม่เห็นกล้องก็เลยงง ค้างทำไม จนกล้องถ่ายก็เลยรู้ หัวเราะลั่นบ้านเลย หึหึ

แล้วก็หลังจากที่ทำข้าวเสร็จ ก็คุย skype หน่อย แล้วก็จัดของ อาบน้ำ นอนครับ นอนเร็วกว่าปกติด้วยเพราะที่ไทยมันตี 2 เลยง่วงไม่ไหวแล้ว (ยังไม่ชินเวลา)

จะว่าไปผมโชคดีที่มาอยู่บ้านนี้ 2 อย่างคือ ใกล้ที่เรียนมาก ถ้าใช้ tube (รภไฟใต้ดินที่ UK เขาเรียกแบบนี้นะ แล้วก็อีกเรื่อง เรื่องเน็ต เหมือน creanna และลูกเขาไม่ใช้เน็ตเลย โหลดบิทมันเลย (ปกติเน็ตที่ไทยจะบล็อคความเร็วจากต่างประเทศไว้ไม่เกิน 1 mb ด้วย แต่ที่นี่ไม่ล็อคเลย โหลดได้ไวสุดๆเลย

2 ความคิดเห็น:

  1. ขนมปังกับตัมยำ .... สุดยอด

    ตอบลบ
  2. น่าสงสารน้า มันกินแต่ไก่ เห็ด กับแครอทน้า
    กลับมาสุขภาพดีจ้า 55555555555+

    วันไหนฝากเชคด้วยนะว่าไส้กรอกดำมันคืออะไร หึหึ
    สีและขนาดนี่ได้เลย อิ่มไปหลายวัน

    ตอบลบ

^ 2 U the comment