The Melancholy of Haruhi Suzumiya (ชอบมั๊ก)
ก็เริ่มออกเดินทางหลังจากเรียนเสร็จเหมือนเดิมน่ะนะ ก็นั่งรถเมล์มาเรื่อยๆตามทาง จนถึงที่ japan center ที่ piccadilly circus ก็เหมือนเดิมล่ะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็เดินเข้าตามตรอกออกตามประตูมาจนถึงที่ที่หมายไว้จุดแรก คืออย่างที่เค้าว่า ร้านขายการ์ตูนดันติดป้ายร้านรับซักผ้าซะงั้น ก็ไม่เข้าใจอ่ะนะ แต่ช่างมัน เดินเข้าไปดื้อๆเลย ก็พบการ์ตูนมหาศาลที่ทำให้ผมมหาศาลเพราะการ์ตูนมหาศาลเป็นภาษาญี่ปุ่นล้าวๆเลย เศร้าเลย กะว่าจะไปซื้อนิยายการ์ตูนมาอ่านเล่นๆซะหน่อย (นิยายอังกฤษ)
แอบถ่ายในร้านหน่อย หนังสือและการ์ตูน ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ
อีกมุมนึงของร้าน
หลังจากเสร็จภารกิจของร้านแรกแล้ว ก็ไปร้านถัดไป ก็เดินไปตามทางในแผนที่จากโทรศัพท์มือถือน่ะ ก็ดีนะ ไม่ค่อยจะหลงทางเท่าไหร่ (ถ้าคนดูแผนที่เป็นนะ) ที่นี่บอกละเอียดมาก โดยจะเน้นไปทางชื่อถนนมากกว่า แบบว่าถ้าหาชื่อถนนเจอก็สบายแล้ว ผมเองก็เดินผ่านร้าน thai square มาด้วยล่ะ ที่นี่มีหลายสาขามาก ประมาณว่าหลายร้านเลย แต่ไม่เคยเข้าไปกินนะ (จะเข้าไปทำไม ทำงานร้านอาหารก็มีอาหารไทยอยู่แล้ว)
เห็นคนยืนต่อคิวหรืออะไรไม่รู้นะ
ก็เดินมาจนรู้ตัวว่าเลยไปแล้ว แบบว่าร้านที่นี่ไม่ค่อยจะโชว์เลยว่าตัวเองเป็นร้านอะไร เดินผ่านไปเลยแย่จัง ก็เดินกลับมาก ก็ร้านชื่อ FORBIDDEN PLANET ขายทั้งมังงะและแม็กกะ (อ่าน manga จากญี่ปุ่น และจาก อังกฤษ ต่างกัน) ก็ร้านนี้ก็มี 2 ชั้น ชั้นบนขายเป็นฟิตเกอร์ (หุ่นจำลอง) มากกว่า แล้วก็มีของต่างๆอย่างตุ๊กตา หนังสือ ของเล่น รูปภาพต่างๆน่ะ ส่วนชั้นล่างจะขายหนังสือเป็นหลัก ก็มีอย่างอื่นปะปนไปเที่ยวล่ะ แต่ร้านนี้ดีหน่อย หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเยอะสุดแล้วมั้ง (แต่สู้ไทยไม่ได้นะ) ผมก็เดินๆดูของไปนะ แต่ไม่คิดจะซื้ออะไร ไม่กล้าซื้อ เห็นราคาแล้วจะอ๊วก
เป็นป้ายที่บ่งบอกความเป็นร้าน "หนังสือการ์ตูน" มากกกกกกก
หน้าร้านก็พอรู้นะว่าเป็นร้านการ์ตูน แต่เราเดินมาเลยไม่ได้มองด้านข้างน่ะ
พ่อบ้านลูกหนี้สุดโชคร้ายก็ได้มาขายที่นี่ด้วย (ลดราคาด้วย)
Death Note ลดราคาอีกเหมือนกัน
จากนั้นก็ออกมาไปต่ออีกทีนึง บอกตรงๆว่าไปผิดทางด้วยละ เจอแยกผิด ประมาณว่าในแผนที่มันละเอียดมากๆ เราเดินผ่านแยกไปแยกนึงเพราะว่านึกว่าไม่ใช่แยกน่ะ เป็นแค่ถนนคนเดินเท่านั้นเอง ก็เลยผิดทางไปเลย เซงเป็ด ก็เดินกลับมาทางเดิมล่ะ แล้วก็เดินไปที่ร้านต่ออีกทีนึง ร้านชื่อgosh ก็เป็นร้านที่มี 2 ชั้นเหมือนกัน ก็ชั้นบนขายหนังสือทั่วไป ส่วนชั้นล่างแอบขายการ์ตูนญี่ปุ่นน่ะ (แอบจริงๆ) ตอนแรกเห็นร้านแล้วล่ะ แต่เดินผ่านเพราะว่าไม่เห็นการ์ตุนอะไรในร้านเลย (มองจากชั้นบนน่ะ) จนต้องเดินย้อนกลับมาดูอีกที ถึงได้รู้ว่า แอบอยู่
เซงกับ 5 แยกจริงๆ
เดินผ่านอะไรด้วยก็ไม่รู้ แต่ไม่สน อิอิ
ร้าน gosh เป็นร้านไม่ใหญ่มากนัก
หน้าร้าน
บ๊ะเจ้ามาแอบที่นี่เอง
ถ่ายการ์ตูนทั้งหมดในร้าน (ถ่ายได้แค่นี้อ่า หมดแล้ว)
หลังจากนั้นผมก็เดินทางต่อไปยังอีกจุดหมายนึง ที่เพิ่มขึ้นมาทีหลังคือ Tokyo Toy เป็นร้านขายของเล่นจากการ์ตูนญี่ปุ่น ตอนแรกนึกว่าจะใหญ่มาก แต่เอาเข้าจริงก็เล็กๆ แถมอยู่ในร้านอีก เดินหาตั้งนานหาไม่เจอ เพราะว่าห้างที่นี่ไม่เหมือนเมืองไทยที่จะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เห็นแล้วรู้ว่าเป็นห้างเลย ที่นี่จะเหมือนกันไปหมด ดูเก่าๆกันหมด ที่จิงแล้วที่ดินแพงน่าจะสร้างคอรโดสูงมากกว่านะ คนจะได้อยู่ได้เยอะๆ ตอนนี้เอาบ้าน (ทาว์เฮ้าว์) มาแบ่งเป็นชั้นๆ แล้วก็ให้เช่าหรือขายแทนอีก ตลกดี
ต่อเรื่อง tokyo toy ก็เป็นร้านที่อยู่ในห้าง Trocadero ใกล้ๆกับหุ่นติดปีกยิงธนูที่เต็มไปด้วยขี้นกน่ะล่ะ ก็เดินเข้ามาประมาณสัก 4 ร้านได้ ก็จะพบร้านนี้อยู่ข้างซ้ายครับ เห็นแล้วรู้เลยว่าร้านอยากขายการ์ตูน เพราะว่าของวางเต็มหน้าร้านเลย (ไม่เหมือนร้านอื่น เดินผ่านไปแล้วยังไม่รู้เลย ว่ามีการ์ตูนขาย) ก็เข้าไปก็จะพบของขายพวกชุดของเล่นต่างๆ ชุดคอสเพรส แล้วก็มีการ์ตูนขายด้วย (เยอะด้วย) แถมตอนออกก็เจอกับพวกของขนมด้วย นอกจากนั้นยังมีแมงมุม(ของเล่น) ชักขึ้นลงเล่นอยู่หน้าร้านด้วย (ตกใจหมดเลย ชักขึ้นข้าๆ แต่ชักลงแบบปล่อยทิ้งลงมาเลยอ่า T.T)
ห้างเล็กๆที่มองไม่รู้ (นึกว่าคาสสิโน)
ชื่อร้าน
ร้านขายของ ต้องจัดแบบนี้ ถึงจะสุดโค่ย!!
พ่อบ้านปีศาจ เห็นแล้วอยากได้ เห็นราคาแล้วเมินเลย
แหวนจากแสงอุสา นารูโต๊ะ (จะมีคนรู้จักไมนี่)
ฟิตเกอร์ ฮารูฮิ
การ์ตูนเยอะที่สุดจากทุกร้านที่เคยเจอ
หลังจากอิ่มนำสำรานไปกับการ์ตูน แล้วของเล่นจากการ์ตูน ก็เริ่มหิวแล้ว เดินมาตั้งไกลนี่น่า แล้วก็วันนี้ตั้งใจจะไปซื้ออาหารญี่ปุ่นกินด้วย ราเมงของโปรดอ่านะ (ที่จริงชอบเพราะรสมันไม่รุนแรงน่ะ) ก็เดินไปแบบสุ่มร้านเอาเพราะไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย ก็มาลองร้าน..... (จำชื่อไม่ได้อ่า ไม่ได้ถ่ายรูปไว้อ่า เศร้า) ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเป็น japan centre ร้านใหม่หรือเปล่า เพราะว่าซื้อ melon pan มากินดู (เห็นในการ์ตูน Shakugan no Shana นางเอกมันชอบกิน เมลอนปังมากมาย ก็เลยลองกินดู อร่อยจิงๆด้วยนะ) ร้านนี้มีชั้นเดียว แต่ลึกมาก มี 3 โซน ก็ โซนแรกสุดขายของสด แล้วก็อาหารที่กินเลย โซนต่อมาเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูป หรือไม่สำเร็จก็ไม่รู้น่ะ ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเลย ก็มีของแช่แข็ง สาเก เครื่องปรุงต่างๆ แล้วก็โซนสุดท้าย ขายหนังสือญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลย
เห็นราคาแล้วคิดแล้วคิดอีกเลยล่ะ แต่สุดท้ายก็ซื้ออ่า
รายการอาหารให้เลือก แทบแย่เลยนะ ไม่ใช่เลือกไม่ถูก แต่อ่านไม่ออก
อีกนิดเดียวก็เห็นชื่อร้านแล้วเสียดายอ่า
ราเมง ธรรมดา
ชัดๆ น่ากินเปล่า (ที่นี่ราเมงใส่ถั่วงอกด้วย ถ้ารู้จะได้บอกไม่เอา แง ไอ้ โมยาชิ เอ๊ย)
ก่อนกลับก็ไปเดินเล่นที่ tesco ด้วยอ่านะ ว่าจะไปซื้อน้ำสักหน่อย ดันไปเห็นซุ่มขายโดนัทชื่อดัง (เห็นว่าที่ไทยต่อคิวกันเป็นชมเลยนินา เราก็เดินไปดู รู้สึกแย่นะ เอามาขายแบบนี้เหมือนลดเกรดยังไงไม่รู้ดิ ตลกดี ก็เลยซื้อมาลองอันนึง (60 บาท แทบกริ๊ด)
Kispy Kreme
รสดังเดิม ก็รสชาติเหมือนกินโดนัสข้างถนนตามตลาดนัดน่ะล่ะ
ก็ซื้อน้ำอะไรมาไม่รู้ มากินกับเมล่อนปัง (ที่ิจิงก็ปังใส่น้ำเมล่อนน่ะล่ะ)
จบการเดินทางวันที่ 2 (มีวันที่ 3 อีกนะ)
อยากลองกินอะไรก็ลองไปเถอะ จ่ายให้..
ตอบลบตึกที่ปัญญ์เดินผ่านไม่สนใจอาจจะเป็น museum
น่าเข้าไปดูหน่อย.....