ล่ะแล้ว เวลาย้ายบ้านก็มาถึง ก็อยู่บ้านเดียวกับ host ที่เป็นคนอังกฤษ (เชื้อสายนิโก) มาครบหนึ่งเดือนพอดี ก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่วุ่ยวายมาก เพราะว่าต้องหาหอแบบกระทันหันด้วย ที่จริงตอนแรกก็มีหอพักแล้วล่ะ ที่นี่ไม่อยากย้ายเพราะเสียดายตังค์ที่จ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็เลยไม่ได้ย้ายไป แต่พอจะย้ายไป ก็มีคนเอาไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะติดกันเอาไว้ก่อน ประมาณว่า ติดวันนี้ อีก 3 สัปดาห์ว่าง ก็เลยหาหออยู่ไม่ได้
ก็อย่างว่าล่ะ ห้องส่วนใหญ่ก็มีแค่ 3 แบบ คือแบบ single room ห้องคนเดียวแบบเล็กๆ share room ห้องสำหรับ 2 คน อยู่ด้วยกัน แล้วก็แบบ Double room ห้องคนเดียว แต่ใหญ่ประมาณ share room เลย ก็ราคาแตกต่างกันไป ที่แรกว่าจะไปอยู่กับคนอื่น แต่ที่นี่เต็มซะงั้น ก็ซวยเลย เลยต้องหาหอใหม่่เลย
ตัวอย่างป้ายประกาศ
ผมก็พยายามโทรไปติดต่อหลายที่ ไม่ว่าจะบ้านที่นักเรียนเช่ากันเอง คือรวมกันไปเช่าบ้าน แล้วก็ช่วยกันจ่าย บ้านที่คนไทยเปิดให้เช่า คือบ้านที่คนไทยเป็นเจ้าของ แล้วก็เปิดให้นักเรียนเข้ามาเช่า หรือบ้านคนต่างชาติเลย เพราะว่าหาไม่ได้แล้วจริงๆ ที่เก่าผมก็บอกยกเลิกไปแล้วด้วย ก็เลยไปคุยกับบ้านเช่าอีกทีนึง ก็ราคาแพงมาก เพราะว่าเป็น share room แต่ผมไม่มีเพื่อนมาด้วย เลยต้องจ่ายเต็มๆเลย ผมเองก็เครียดมากช่วงนั้น
เดินไปนั่งรถไป ตรงไหนมีป้ายประกาศเข้าไปดูหมด โทรไปจนเงินหมด เติมแล้วเติมอีก แล้วก็ถามคนนู้นคนนี้มีห้องว่างบ้างไม จนสุดท้ายก็ทำใจยอมรับเรื่องที่ต้องไปอยู่ห้อง share room คนเดียวในราคาเต็ม ผมก็ไปนั่งคุยแล้วก็เกือบจะทำสัญญาณแล้วล่ะ แต่เจ้าของบ้านบอกว่าให้คิดดีๆก่อน เพราะว่าต้องทำสัญญาเช่าด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ายังไงอ่ะน่ะ แต่เอาเป็นว่า ผมต้องจ่าย 7 เดือนเลย หรือง่่ายๆ จ่ายแพงกว่าเดิมอีกน่ะล่ะ เครียดมากๆช่วงนั้น
หลังจากนั้นก็เดินมาที่รถไฟ เตรียมกลับบ้าน เพื่อที่จะไปคิดว่าจะเอายังไงดีกับชีวิต เดินอย่างคนไร้วิญญาณไปเลย ซึมเศร้ามาตลอดทาง รู้สึกแย่สุดๆเลย เพราะว่าถ้าไม่เอาก็ไม่รู้จะไปซุกหัวนอนที่ไหนแล้ว
อยู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมเองก็หยิบขึ้นมาดูครับ ก็พอพบว่าเป็นเบอร์แปลกที่ไม่รู้จัก ผมก็รับโทรศัพท์มา แล้วคนที่โทรมาก็ถามมาว่า "วันนี้ว่างไม" จะให้ไปช่วยทำงานหน่อย ผมเองดันไม่ว่า ต้องไปทำร้านเก่า ผมก็เลยบอกไปตามตรง แล้วก็มีเสียงรถไฟวิ่งผ่าน พี่เค้าเลยถามว่า "ตอนนี้ทำอะไรอยู่" ผมก็ตอบไปแบบเซงๆ "หาหออยู่ครับ "
ดีใจมากครับ เพราะว่าพี่ที่โทรมา ดันมีห้องว่างพอดีห้องนึง แต่เป็นห้องเล็กๆ 60ปอนด์ต่อวีด ผมตอบตกลงทันที ทั้งๆที่ยังไม่เคยไปแล้วก็ไม่เคยเห็นห้องเลย พี่เขาก็เตื่อนมาด้วยนะว่า ห้องมันเล็กนะ คิดดีๆก่อนนะ คือเวลานี้ผมไม่คิดเรื่องอะไรแล้วล่ะ ไปเลยดีกว่า ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว ผมก็เลยถามพี่ว่าอยู่ที่ไหน แถวไหน แล้วก็นัดเวลาไปหาที่นู้นเลยครับ
ก็เวลานานนิดหน่อยในการมาที่นี่ ก็นั่ง tube มาสองต่อ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการมา เพราะว่าเสียเวลารอรถด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร ราคาขนาดนี้ ยอมเสียเวลาดีกว่า อิอิ แล้วผมก็เจอกับพี่เค้า ที่สถานี
พี่เค้าก็พามาดูห้องว่าเป็นยังไง ก็เป็นบ้านเล็กๆ เข้ามาก็มีห้องครัวแล้วก็ห้องนอน2 ห้องด้านหน้า แล้วก็มีห้องด้านหลังอีกห้องนึงด้วย ขึ้นไปชั้นสองก็มีห้องนอน 3 ห้อง แล้วก็มีห้องน้ำ กับห้องส้วมแยกกัน ซึ่งผมก็งงๆ แยกทำไมหว่า
ห้องที่พี่เขาว่างเป็นห้องที่เล็กๆ ยาวประมาณ 6 ฟุต กว้างประมาณ 5 ฟุต แล้วก็มีเตียงครึ่งห้องพอดี ไม่รู้ว่าเอาเข้ามาได้ยังไง นอกจากนั้นก็มีโต๊ะที่มีลิ้นชักอยู่ด้วย แล้วก็มีชั้นว่างของเหนือหัว ก็ห้องเล็กๆ แต่ผมว่าดีนะ ห้องใหญ่ๆ มืดๆมันน่ากลัวยังไงไม่รู้ ผมก็เลยตอบตกลงไปเลย ไม่ใส่ใจอะไรแล้วล่่ะ อิอิ โชคดีมากมายครับ
เดินไปนั่งรถไป ตรงไหนมีป้ายประกาศเข้าไปดูหมด โทรไปจนเงินหมด เติมแล้วเติมอีก แล้วก็ถามคนนู้นคนนี้มีห้องว่างบ้างไม จนสุดท้ายก็ทำใจยอมรับเรื่องที่ต้องไปอยู่ห้อง share room คนเดียวในราคาเต็ม ผมก็ไปนั่งคุยแล้วก็เกือบจะทำสัญญาณแล้วล่ะ แต่เจ้าของบ้านบอกว่าให้คิดดีๆก่อน เพราะว่าต้องทำสัญญาเช่าด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ายังไงอ่ะน่ะ แต่เอาเป็นว่า ผมต้องจ่าย 7 เดือนเลย หรือง่่ายๆ จ่ายแพงกว่าเดิมอีกน่ะล่ะ เครียดมากๆช่วงนั้น
หลังจากนั้นก็เดินมาที่รถไฟ เตรียมกลับบ้าน เพื่อที่จะไปคิดว่าจะเอายังไงดีกับชีวิต เดินอย่างคนไร้วิญญาณไปเลย ซึมเศร้ามาตลอดทาง รู้สึกแย่สุดๆเลย เพราะว่าถ้าไม่เอาก็ไม่รู้จะไปซุกหัวนอนที่ไหนแล้ว
อยู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมเองก็หยิบขึ้นมาดูครับ ก็พอพบว่าเป็นเบอร์แปลกที่ไม่รู้จัก ผมก็รับโทรศัพท์มา แล้วคนที่โทรมาก็ถามมาว่า "วันนี้ว่างไม" จะให้ไปช่วยทำงานหน่อย ผมเองดันไม่ว่า ต้องไปทำร้านเก่า ผมก็เลยบอกไปตามตรง แล้วก็มีเสียงรถไฟวิ่งผ่าน พี่เค้าเลยถามว่า "ตอนนี้ทำอะไรอยู่" ผมก็ตอบไปแบบเซงๆ "หาหออยู่ครับ "
ดีใจมากครับ เพราะว่าพี่ที่โทรมา ดันมีห้องว่างพอดีห้องนึง แต่เป็นห้องเล็กๆ 60ปอนด์ต่อวีด ผมตอบตกลงทันที ทั้งๆที่ยังไม่เคยไปแล้วก็ไม่เคยเห็นห้องเลย พี่เขาก็เตื่อนมาด้วยนะว่า ห้องมันเล็กนะ คิดดีๆก่อนนะ คือเวลานี้ผมไม่คิดเรื่องอะไรแล้วล่ะ ไปเลยดีกว่า ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว ผมก็เลยถามพี่ว่าอยู่ที่ไหน แถวไหน แล้วก็นัดเวลาไปหาที่นู้นเลยครับ
มี tube วิ่งอีกเส้นนึง แต่สถานีดันอยู่ไกลไปหน่อย
ก็เวลานานนิดหน่อยในการมาที่นี่ ก็นั่ง tube มาสองต่อ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการมา เพราะว่าเสียเวลารอรถด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร ราคาขนาดนี้ ยอมเสียเวลาดีกว่า อิอิ แล้วผมก็เจอกับพี่เค้า ที่สถานี
บ้านใหม่
พี่เค้าก็พามาดูห้องว่าเป็นยังไง ก็เป็นบ้านเล็กๆ เข้ามาก็มีห้องครัวแล้วก็ห้องนอน2 ห้องด้านหน้า แล้วก็มีห้องด้านหลังอีกห้องนึงด้วย ขึ้นไปชั้นสองก็มีห้องนอน 3 ห้อง แล้วก็มีห้องน้ำ กับห้องส้วมแยกกัน ซึ่งผมก็งงๆ แยกทำไมหว่า
บ้านใหม่อีกมุม
ห้องที่พี่เขาว่างเป็นห้องที่เล็กๆ ยาวประมาณ 6 ฟุต กว้างประมาณ 5 ฟุต แล้วก็มีเตียงครึ่งห้องพอดี ไม่รู้ว่าเอาเข้ามาได้ยังไง นอกจากนั้นก็มีโต๊ะที่มีลิ้นชักอยู่ด้วย แล้วก็มีชั้นว่างของเหนือหัว ก็ห้องเล็กๆ แต่ผมว่าดีนะ ห้องใหญ่ๆ มืดๆมันน่ากลัวยังไงไม่รู้ ผมก็เลยตอบตกลงไปเลย ไม่ใส่ใจอะไรแล้วล่่ะ อิอิ โชคดีมากมายครับ
คนดีพระคุ้มนะลูกนะ...!!! เกือบต้องนอนฟุตบาทซะแล้ว
ตอบลบขอให้ทำดีกับคนที่เขาดีกับเราตลอดไป.....จะได้แคล้วคลาด
น้องหมูน่าสงสารมาก เดินไปอย่างไร้จุดหมาย........
ตอบลบแต่ก็โชคดีแล้วอ่ะ อิอิ