Study UK :17 การเรียนที่ LSC

จะว่าซวยหรือโชคดีก็ไม่รู้นะ สัปดาห์แรกที่ผมมาถึง ก็สอบเลย แล้วผมก็ "ตก" ตามที่คิด (ขนาดมองคนข้างๆแล้วนะ) แล้วผมก็ซ้ำชั้นโดยไม่รู้อะไรเลย



ที่ LSC เป็นโรงเรียนสอนภาษาอยู่แถวๆ สถานีtube person green อยู่บนถนน munster road (ตอนแรกนึกว่า monster ถนนสัตว์ประหลาด) บอกไปก็ไม่รู้จะรู้จักหรือเปล่านะ

สีน้ำตาล ด้านบนตึกน่ะ LSC

ก็สำหรับตัวอาคารจะเป็นแบบ ใช้พื้นที่ด้านบน 2 ชั้นในการเรียนการสอน ส่วนชั้นล่างก็มีร้านอาหาร ร้านค้า อยู่ (สำหรับขายอาหาร) แล้วก็มีตึกข้างๆ อีกตึกนึง เป็นห้องเรียนเพิ่มเติมด้วย ที่นี่ผมคิดว่าจัดระเบียบห้องได้แย่ เหมือนกับ ต่อเติมตรงนี้นิด สร้างห้องตรงนู้นหน่อย ไม่ได้คิดอะไรไว้ล่วงหน้าเลย มันเลยทางเดินวนไปวนมามั่วไปหมด

ก็มาวันแรกที่เรียน (เรียนสองวัน สอบสองวัน ปาร์ตี้เล็ก หนึ่งวัน) ผมก็มารายงานตัวที่ห้องอะไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ คนที่รับผมก็พูดภาษาอังกฤษ ใส่ผมเป็นลูกคลื่นเลย คือฝังไม่ทัน แล้วก็เออ ออ ไปตามเขา จับได้แค่ประโยคสุดท้าย ไปเรียนห้อง 14 แล้วก็บอกทาง (บอกอย่างงี้ ปล่อยผมไปหลงทางเถอะ) คือมีแต่คนไม่ชอบแกเท่าไหร่ เพราะแกคิดว่าคนที่มาเรียนเป็นระดับ High class แล้วล่ะ เลยพูดซะ รู้เรื่องชิบหายไอ้....

ห้องเรียนเล็กๆ (คนหัวดำ สามคนเป็นคนไทย)

ผมก็หลงทางนิดหน่อยนะ ก็เลยไปถามคนอื่น (ถามด้วยภาษาอังกฤษนะ) "ก็ได้ความมาว่า หันไปด้านหลัง มีแผนที่อยู่" เออ ขอบคุณ ก็มีจริงๆ อะนะ ผมเองก็ไปเรียนตามที่บอกเอาไว้ แล้วก็ไปที่ห้อง รู้สึกคนที่นี่ก็ไม่ได้ตรงเวลากันเลยนะ เริ่มเรียน 9.20 พัก 10.15-10.30 เลิก 12.00 ก็เอาเข้าจริงก็สบายๆอะนะ

วันแรกที่เข้าเรียนผมเองก็ไปนั่งข้างๆ คนตุรกี อยากจะด่ามันจริงๆ คือไม่ใช่คน UK กระแด๊กมาสอนวิธีพูดกะผมอีก คือผมออกเสียงไม่ชัด มันก็จะให้ออกเสียงให้ชัด แต่ผมว่า มันไม่ชัดกว่าผมอีก รู้ตัวไม

รู้ไมว่าโดนด่าอยู่อ่า

แล้วก็สำหรับชาติต่างๆที่มาเรียน ผมปวดหัวกับคน ญี่ปุ่น สุดๆแล้ว คือออกเสียงได้สุดๆ (ต้องเป็นคนที่ไม่ค่อยเก่งนะ คนเก่งก็ออกเสียงได้ดีอยู่) คือฟังอยู่หลายรอบกว่าจะผ่านได้ เครียดเลย

ไอ้หมวกคลุมหัวนี่ล่ะ ที่ว่าออกเสียงได้สุดๆ (สอบตกด้วยล่ะ)

ตอนที่เรียนอยู่ ผมก็คิดนะ ไอ้พวกนี้เก่งจังว่ะ พูดอังกฤษคล่องเลย แต่พอเวลาทำแบบฝึกหัดในห้อง บางทีผมก็ถูกมากกว่าอีกนะ ผมก็เลยคิดมาว่า การที่มาเรียนที่นี่ เป็นแค่ฉากหน้าเท่านั้น เพราะการที่จะใช้ได้ดีๆ ต้องพูดคุยเยอะ

ซ้าย ไทย ขวาและกลาง เกาหลี ที่มาเรียน

ที่จริงก็ต้องขอบคุณ หนัง การตูน ที่เป็นภาษาอังกฤษ นะเพราะว่าพวกนี้จะใช้คำศัพท์สำหรับการพูดเป็นหลัก ไม่ได้ใช้ความถูกต้องเสมอ สำหรับที่เรียนมา ใช้ยาก มันต้องการความถูกต้องเกินไป คนต่างประเทศหลายคนที่ไม่ได้ภาษา เพราะว่ากลัวพูดผิด กลัวผิดหลักต่างๆเท่านั้นเอง หลายคำที่แทบไม่เห็นในหนังสือ มาเห็นคนใช้กันเต็มเลยก็มีมากมาย Hi Hello Just ... คือคำมันใช้บ่อยๆ แต่หนังสือดันไม่พูดถึงเลย

ช่วงที่สอบการสอบอยู่ 2 วัน คือวันแรก สอบอ่าน ก็จะมีข้อสอบเป็นชุดๆ มาประมาณ 3 หน้า ก็อ่านๆ แล้วก็ทำ ที่จำได้ก็มีเรื่องแกรมม่า การออกเสียง การอ่าน ประมาณนี้ ส่วนอีกวันจะเป็นการสอบการฟัง และการพูด โดยการฟังจะเป็นแบบเปิดเทป แล้วตอบคำถาม ลอกง่าย อิอิ ส่วนการพูดก็จะเป็นแบบ เอาเกมส์มาให้เล่นการ โดยจะต้องพูดเรื่องราวต่างๆ ของตัวเอง I hate game. คือเสียงเบาๆของคนหลายคนที่เรียนอยู่ แล้วก็การเขียน ก็ต้องเขียนตามที่สั่งด้วย แต่มีให้เลือกอยู่นะ

คนไทยนึกว่าผมเป็นคนเกาหลี แต่พอเห็นผู้ชายคนนี้เป็นเกาหลีแล้ว คนไทยคนั้นมันด่าผมป่าว

ส่วนเรื่องคะแนน ผมได้ 55 คะแนน ขนาดมีคนข้างๆนะนี่ ซึ่งคะแนนที่สอบผ่านต้องเป็นคะแนนที่มากกว่า 60 ขึ้นไป ก็เลยสอบตกเลย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก  ยังไม่ได้เรียนอะไรเลยนะ

คนไทยที่ได้ Top Class 80 คะแนน

อาจารย์ที่ห้อง

สำหรับวันสุดท้ายของการเรียนก็เป็นกินเลี้ยงกัน ก็แล้วแต่ห้องว่าต้องการจัดยังไงดี บางห้องก็เอาขนมมาคนนะกล่องก็มี แต่ห้องผมไม่ได้คิดเอาไว้ ก็เลยไปที่ starbuck ผมเองก็นึกจิบโกโก้น้ำตาครอ (แพงชิบ) แล้วก็เป็นแก้วแรกที่มากินใน star buck หึหึ

มือสั่นนิดหน่อย

เหมือนเป็นสัปดาห์เดียวที่รวมหมดทุกสิ่งอย่างเลยนะ ก็ดีแล้ว แต่สำหรับสัปดาห์หน้า ก็จะเปลี่ยนห้องแล้วล่ะ