8/9/53

Study UK :9 Visa

อีกเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องสำหรับไปประเทศอังกฤษ ก็พูดง่ายๆ ถ้าไม่มี Visa ก็ไปไม่ได้ จบข่าวเลย เรื่องนี้ทำได้ไม่อยากครับ แต่ต้องใช้เวลาและที่สำคัญ อย่าพูดเล่นหรือโกหกกับเจ้าหน้าที่ จริงจังด้วยนะครับ ก็จะมีช่วงเวลาทั้งหมด 3 ช่วง โดยมี ช่วงสมัครผ่าน internet ช่วงไปทำ Visa ช่วงไปรับใบvisa คืน


ช่วงแรก ผมเองก็ได้สมัครทาง internet ก็ไม่ยาก เพราะพี่ที่ Jsr ช่วยทุกอย่างให้เรียบร้อยเลย เพราะอยู่ข้างๆคอยแปลและช่วยเลือกตัวเลือกต่างๆ จะได้ไม่ผิดพลาดหรือมีปัญหาภายหลัง แต่ก็ต้องมี internet ด้วยนะ ไม่งั้นสมัครไม่ได้ ผมเองก็ทำตามที่พี่บอกเรื่อยๆ แต่ผมก็คิดในใจไปด้วย ถามอะไรมากมาย จุกจิกด้วย แถมแต่ละคำถามยาวมาก ผมว่าถ้าผมทำเองกว่าจะเสร็จก็คงจะข้ามวันแน่ๆ แทบแย่ขนาดมีพี่บอกแล้วนะ

นอกจากนั้นก็ต้องเขียนด้วยว่าไปทำไมเพื่ออะไร ประมาณซัก 2-3ประโยค ชื่อพ่อแม่ตามพาสปอร์ต แล้วก็ประวัติที่เคยไปต่างประเทศด้วยที่สำคัญ ถ้าแสดงว่าเคยไปต่างประเทศมามากมายก็จะไปได้ง่ายขึ้นเพราะดูมีความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าใครเคยไปยุโรปก็คงจะรู้ว่า จะต้องไปประมาณ 5 ประเทศขึ้นไป ซึ่งตอนที่เขียนไปลำบากมาก เพราะจำไม่ได้ว่าไปไหนมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมเองก็ยังมีพาสปอร์ตอยู่ ก็อ่านจากพาสปอร์ตด้วยนะครับ และผมก็พึ่งรู้ว่า นามสกุลญาติผมและของครอบครัวผมเอง เขียนไม่เหมือนกันในพาสปอร์ตที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย

ช่วงที่สองก็ไปทำ Visa หลังจากที่สมัครทาง internet ผ่านแล้ว ผมเองก็ได้เดินทางไปทำ Visa ด้วยตัวเองครับ ก็เคยได้ยินของสหรัฐอเมริกาว่าเขี้ยวสุดๆ (แบบที่อุดมบอกอ่า) ก่อนวันไปก็เลยตัดผมให้เรียบร้อย "เห็นหูแล้ว" แล้วก็ไปถ่ายรูป 2 นิ๊ว (ไม่ใช่มือชูนิ๊วนะ) ส่วนขนาดจริงๆก็จะมีบอกอยู่เป็นหน่วยมิลลิเมตรนะครับ ห้ามหลับตา ห้ามมีคนอื่นในรูป ห้ามยืนเอียง ห้ามยิ้ม ห้ามนู้นนี่นั้นมากมาย แต่ไม่ต้องสนใจหรอก เพราะก็ยืนถอดหมวก แว่นออกก็เรียบร้อยแล้ว

ว่าแล้วผมก็เตรียมเงินสดไปเลย (ต้องไปซื้อเช็คธนาคารอีก แต่ดีที่มีธนาคารอยู่ใต้ตึก) ผมเองก็รีบไปแต่เช้าเลยครับ กลัวจะไม่ทัน ขึ้น BTS รอบแรกของวันเลย ประมาณ 6โมงเช้า แล้วก็ไปถึงที่อย่างเร็วประมาณ 6 ครึ่ง ที่สถานีราชเทวี ถามเจ้าหน้าที่ด้วยว่าสถาฑูตอย่างที่ไหน แล้วก็วิ่งไปเตรียมรอคิว แต่พอไปถึงก็พบว่า ไม่มีคนเลย ไม่เป็นไร อาจจะแอบต่อคิวข้างในก็ได้ ผมเองก็เข้าไปก็พบผู้ชายคนนึงเซ็นชื่ออยู่ ผมก็นึกว่าเซ็นต่อคิว ผมก็เลยไปเซ็นชื่อต่อคิวเลย แปปเดียวผู้ช่วยคนนั้นเดินมาถามผม แล้วผมก็หน้าแตกอย่างแรงเลย เซ็นชื่อเป็นพนักงานไปแล้ว นึกว่าเซ็นชื่อต่อคิว นอกจากนั้นวันที่ผมไปดันหยุดชดเชยวันแม่อีก ธนาคารปิดอีก แล้วจะสมัครได้ยังไง สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านไปตามระเบียบ แล้วก็รู้ว่า ไม่ต้องรีบมาก็ได้

แล้ววันต่อมา ธนาคารเปิดวันทำการแน่นอนแล้ว ผมเองก็มาอีกครั้ง คราวนี้มาสายเลย ก็เลยได้คิวหลังๆไป ผมเองก็หิว เพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย อยากจะบอกว่าแถบนั้นไม่มีอะไรให้กินเลยนะครับ ผมเองก็ต้องเดินย้อนกลับมาที่สี่แยกแถวๆ สยามเพื่อที่จะกินอาหารน่ะครับ ไกลมากๆ ก็ไม่กินอะไรไปตอนเช้าก็เลยหิวจัดแค่นั้น กว่าจะถึงคิวผม ก็เกือบเที่ยงแล้ว ผมถึงได้คิว นั่งรอไป 4ชั้วโมงกว่าๆได้ แต่ยังดีที่มีหนังสือมาอ่านด้วยนะ ไม่งั้นเซงแน่ๆ ผมเองก็เอาเอกสารไปให้เขาจัดการให้ แต่ดูเหมือนจะขาดอะไรไปซักอย่างนี่ล่ะ ผมก็รู้สึกหวาดเสียวเลยนะครับ ขาดอะไร เดียวไม่ได้ไปพอดี แต่ก็ไม่ทันแล้ว เขาจัดแจงเอาเอกสารทั้งหมดใส่ในซองสีดำ เตรียมให้เราเข้าไปยื่นอีกห้องนึง จะว่าไปเขาห้ามเปิดซองสีดำโดยเด็ดขาด ห้ามนำออกจากห้องด้วย คงกลัวแอบเปลี่ยนแปลงเอกสาร ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เพราะไม่ได้คิดจะโกหกปิดบังอะไร

ผมก็รอต่อไปอีกเกือบชั่วโมงนานมากครับ ผมก็เองก็เลยเขียนความคิดเห็นลงไปในกรดาษแสดงวามคิดเห็นลงไป รอนานมาก แค่นั้น ที่เหลือก็ให้ดีหมด ถ้าจำไม่ผิดนะครับ พอถึงคิวผม ผมก็ถูกเรียกไปในห้องครับ ก็มีคนมาถ่ายรูป สแกนนิ๊วมือ แล้วก็สอบถามเรื่องต่างๆเกี่ยวกับผมด้วยครับ แค่แปปเดียวก็เสร็จแล้วครับ ส่วนเรื่องที่ว่าผมเขียนไปว่ารอนานมาก ผมก็เข้าใจว่าคงมีคนจากวันศุกร์ที่หยุดราชการ และก็วันเสาร์อาทิตย์อีก มารวมกันในวันจันทร์ คนมันก็เลยเยอะไปหน่อย ไม่เป็นไร ที่นี้ผมก็เหลือแค่รอ SMS ตอบกลับมาว่า Visa เสร็จหรือยัง ไม่ใช่ผ่านหรือยังนะครับ

วันรุ่งขึ้นผมตกใจมากเลยครับจู่ๆทาง Visa ก็โทรมาหาผม (ไหนว่าจะ SMS ไง) ผมก็งงมาก เพราะโทรมาตอนเช้า โทรมาปลุกพอดีด้วย นึกว่ามีปัญหา ไม่ได้ไปต่างประเทศซะอีก ที่แท้โทรมาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่ผมไปเขียนใว้ในคำแนะนำที่บอกว่า รอนานมาก ว่าเป็นยังไงอะไร ผมเองก็โล่งอก ก็บอกนู้นนี่นั้นไปตามจริงเท่านั้นล่ะครับ ก็ดีนะครับที่มีการโทรตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ตกใจนึกว่าไปไม่ได้ซะแล้ว

หลังจากนั้นผมก็ต้องรออีก 2 สัปดาห์ เพื่อให้ Visa ส่ง SMS มาตามตัวกลับไปรับพาสปอร์ตคืน โดยไม่ได้บอกว่าผ่านหรือเปล่า ช่วงที่รอก็รู้สึกหวาดเสียวพอตัวเหมือนกันนะครับ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะส่งมา เพราะอาจจะนานเกิน 2 สัปดาห์ก็เป็นไปได้เหมือนกัน จนกระทั้งมี smsส่งมาให้ไปรับได้แล้วตอนเช้า ผมก็รีบออกไปทั้นทีเลยครับ ถึงประมาณ 10โมงได้ แล้วก็นั่งรออีกนานเลย เพราะลืมไปว่า เขาให้มารับช่วงบ่าย 3โมงเย็นเป็นต้นไป ก็ยังดีมีหนังสือมาอ่านด้วย คนละเล่มกับของวันที่ผมทำ Visa นะ ก็นั่งอ่านจนจบเลยกว่าจะถึงเวลา

ก่อนถึงเวลาซัก 40นาที ก็มีคนไปยืนรอคิวที่ป้ายแล้วนะครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจ จะรีบกันทำไม แล้วอีกไม่ถึง 5 นาที ก็กลายเป็นแถวยาวเยียดที่รอคิวเลยครับ ผมเองก็ไม่ได้คิดอยากจะต่อแถวนะครับ เพราะต้องไปยืนรออีก ยังไงวันนี้ก็แค่รับกลับแปปๆก็คงเสร็จ ก็เข้าใจนะ ตอนมาทำต้องรอคิวนานมาก คนก็เลยกลัวว่าจะเสียเวลานานก็ลงทุนต่อคิวแรกๆเลย พอถึงเวลาก็มีพนักงานมาแจกบัตรคิว แล้วผมก็ตามไปเข้าคิวที่หลัง ก็ไม่นานมาครับ ไม่ถึง ชั้วโมงก็คิวผมแล้ว ผมก็ไปรับซองขาวมา แล้วก็ลุ้นว่าจะได้ไปไหม เปิดมาตกใจมาก หาหน้า Visaไม่เจอทำไงดี ผมหน้าเสียอย่างแรง แต่ดูๆไป มันเล่มเก่านี่นา โชคดีที่ผมได้ Visa มาแล้ว อยู่ในเล่มใหม่ ทีนี้ผมก็สามารถไป UK ตามที่ต้องไปได้แล้ว (กว่าจะได้ไป เกือบ 4 เดือน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

^ 2 U the comment