หลังจากนั้นผมก็เริ่มประสาทกินหัวอีกครั้ง เพราะว่า บริษัทต่างๆ ที่จองตั๋วเครื่องบิน มันปิดปีใหม่หมดเลย ทำให้ต้องอดหลับอดนอนไปอีก แถมเวลาเลื่อนตั๋วก็เสียตังค์อีก เงินปอนด์ก็อ่อนลงอย่างต่อเนือง(ช่วงนั้น) ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินแพงเอาแพงเอา แย่จังเลย
จะว่าไป ในเวลาที่แย่ๆ ก็มีเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นบ้างนะ อย่างตอนนี้ ผมได้ดูการ์ตูนญี่ปุ่น ซัพอิงจบไปหลายตอนมากเลยๆ เพราะว่าไม่ได้นอน ไม่รู้จะทำอะไรนี่ล่ะ อัดเข้าไปอ๊วกเลย 24hr เลย อิอิ นอกจากนั้นก็ได้มีเวลาไปอ่านบทความต่างๆ เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ไปสารพัดเลย
ที่ดูการ์ตูนได้เยอะ อ่านบทความได้เยอะ เพราะไม่รู้จะทำอะไรแล้วจริงๆ นอนไม่ได้ ขนาดนั่งมันยังวิ่งมากัดตูดเลย นอกจากนั้น มันยังกัดทะลุผ้าคลุมขึ้นมาเลยก็มี อยากจะร้องไห้จริงๆ เศร้าใจ ทำไมมันร้ายได้อย่างนี้
ดูเน็ตไปเรื่อย ก็เห็นคำๆนึงที่เขียนถึงตัวเรือดด้วยนะ
"ฝันร้ายของนักเรียนนอก"
ก็เข้าใจคำนี้ทันที ผมกำลังจะแย่แล้ว ทุกวันกินข้าววันละ 2มื้อ เช้า กับเย็น กินน้ำนิดหน่อย พอจะสลบก็มีคนมาปลุกตลอด จะตายให้ได้เลยล่ะ
ก็โชคดีที่ว่า มีเพื่อนห้องข้างๆ (ไม่ใช่ไอ้เกย์นั้นนะ) มาให้ผมไปนอนด้วยใน 2วันสุดท้ายก่อนกลับ ต้องขอบคุณมากจริงๆ ที่มีทีให้นอนให้
ช่วงนั้นผมหยุดเรื่องการเขียนบล็อคทุกอย่างลงหมดเลย เพราะว่าไม่มีอารมณ์จะเขียนอะไรแล้วจริงๆ นอกจากนั้นก็ไม่ได้ถ่ายภาพอะไรเลย เพราะไม่ได้ไปไหน ก็คงมีแค่ภาพอาหารที่ถ่ายไปเรื่อยๆ แก้เหงาเท่านั้นเอง
วันที่ผมกลับบ้านนั้น ผมจำได้ว่า ผมไม่มีความรู้สึกอะไรเหลือแล้ว มันแย่ไปหมดแล้ว เสื้อผ้าที่เอาไปทั้งหมด ทิ้งหมดเลย เหลือแค่เสื้อที่เอามาใส่กลับบ้านเท่านั้น ที่เหลือทิ้งหมด ของฝาก ส่วนใหญ่ก็เอาพวกผลไม้แห้งกลับเท่านั้นเอง ที่เหลือผมก็ไม่ค่อยมีอะไรมากแล้ว
ผมเดินจากบ้านออกมาโดยไม่มีการโบกมือลาใคร นอกจากคนที่ให้ผมพักด้วยเท่านั้นเอง ที่เหลือผมไม่สนแล้ว ผมเดินไปอย่างไว ไม่มีอะไรหยุดได้อีกแล้ว ความรู้สึกอยากกลับมันเต็มหัวไปหมด (ที่จริงถ้าไทยไม่มีเรื่องทหารอยู่ ผมคงจะรักไทยมากเลยล่ะ) สำหรับตอนนี้ มันรังเกียจที่นี่ไปแล้ว
เป็นเหมือนความโล่งอกที่ได้มาถึงสนามบิน ที่นี่กว้างมาก เดินเกือบชมกว่าจะถึงเลย มีอยู่ 5 ตึกรับรองเลย ผมก็มาตามทาง แล้วก็รอเช็คอิน ปิดโทรศัพท์ โยนซิมทิ้ง แล้วก็นั่งรอ คือประมาณว่า อยากกลับเต็มที่แล้ว เครื่องบิน 3ทุ่ม ผมมาบ่าย3 น่ะ ก็นั่งอ่านหนังสือที่ได้มาจากพี่สาวที่มาเที่ยวช่วงปีใหม่
อ่านจบเล่นไป2 รอบกว่าจะได้ขึ้นเครื่องบิน ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลยล่ะพอขึ้นเครื่องแล้วก็ได้ไปนั่งตามที่ตั๋วบอกไว้ ผมเองก็นั่งสบายๆ ได้กินอาหารอร่อยๆ มีความสุขจริงๆ ความรู้สึกที่นอนบนเครื่องบินมันดีจริงๆ สบายๆจริงๆ
จากนั้นพอถึงที่บ้าน ก็พบกับพ่อแม่และแฟนมารับที่สนามบิน ทุกคนตกใจมาก ร่างกายซูบไปอย่างแรงเลย แล้วก็เตรียมเสื้อผ้ามาให้ผมด้วยนะ เพราะว่าผมจะทิ้งเสื้อทั้งหมดที่มี เพื่อกันตัวเรือดติดกลับบ้านด้วย ก็ในที่สุด ผมก็ได้กลับบ้านแล้ว
ฮือ... เป็นทหารต่ออีกแล้วตู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
^ 2 U the comment