22/9/53

Study UK :19 ค่าใช้จ่ายในการมา UK


ก็เขียนเอาไว้เผื่อใครจะตามมานะ เอาเป็นว่าจะเขียนตามที่รู้ตอนนี้ละกันนะ ก็จะมีเรื่องค่าที่มา อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คนเพราะแต่ละที่ส่งมาก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว บางโรงเรียนก็แพง บางทีก็ถูก ค่าที่อยู่ตอนแรกอีก ที่ต้องให้โรงเรียนหาให้ก่อนที่จะมา (แต่ถ้ามีคนรู้จัก ก็มาได้เลย) ค่าธรรมเนียมต่างๆอีกมากมายอ่ะนะ



เอาเป็นว่าเรื่องที่ต้องทำก่อนมาคงบอกรายละเอียดมากไม่ได้ แต่สำหรับผม ก่อนมาก็มีเรื่องสอบ toeic ประมาณ 2400 บาท (สอบ 2 รอบ) แล้วก็ที่เรียนพิเศษอีก 15,000 บาท
การบินไทย แพงสุด แต่ราคาก็ไม่ต่างกับสายการบินอื่นมากนัก

จากนั้นก็ค่าที่จะสมัครเรียน 80,000 บาท ก่า ค่าเครื่องบินไปไม่กลับอีก เกือบ 30,000 บาทได้ แล้วก็ค่าตรวจปอด 3,000 บาทมั้ง แล้วก็ค่าธรรมเนียมขอไปอังกฤษอีก 10000 บาทได้ ก็รวมจริงๆก็ประมาณ 120,000 บาท เลยล่ะ แต่ก็น่าขำที่เรื่อง ถ้าอยู่ที่นู้น 6 เดือน ก็ต้องใช้ประมาณ 120,000 บาท แต่ถ้าขึ้นไปเป็น 1 ปี ราคาก็จะขึ้นไปแค่ 150,000 บาทเท่านั้นเอง ได้เวลา 2  เท่า แต่เพิ่มเงินนิดหน่อยเอง
ไม่รู้ว่าที่นี่ถูกมากหรือเปล่านะ แต่ก็ถือว่าราคาถูกแล้วล่ะ

เอาเป็นว่าเรื่องค่าที่จะมาที่นี่ก็ราคาประมาณนี้ล่ะ  100,000 บาทกว่าๆ แต่ถ้ามาเรียนปริญณาโท หรือ เอก ก็ว่าไปอีกเรื่องนะ

สำหรับเวลาที่มาอยู่ที่นี่ ต้องเอาเงินมาใช้อะไรบ้างนะ (อยากจะบอกว่า ค่าครองชีพ แพงโครตๆเลย)

เรื่องแรกก็เรื่อง ที่อยู่เลย เป็นอะไรที่แพงมาก ที่นี่จะต่างจะเมืองไทยนิดหน่อย คือที่นี่จะคิดเป็นสัปดาห์ ไม่เหมือนเมืองไทย คิดเป็นเดือน ผมว่าดีนะ แฟร์ดี เพราะว่า แต่ละเดือนมันไม่เท่ากัน บางเดือนก็ 30  วัน บางเดือนก็ 31 วัน แต่สรุปแล้ว คนเช่าได้เปรียบเพราะถ้าอยู่ทั้งปี ก็จะได้วันอยู่ฟรีมา 5 วัน (365วัน)
ราคาถูกมาก แต่ไกลหน่อย แล้วก็ห้องคู่ (แต่ตูมาคนเดียวอ่า)

ราคา share ถูกดี

ทำไมไม่มีแบบอยู่คนเดียวบ้างเลย เศร้า

ที่นี่คิดเป็นสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่ที่นักเรียนที่นี่อยู่ก็มีอยู่ 3 แบบ
1 แบบอยู่คนเดียว (single room) ก็อยู่คนเดียวในห้องเล็กๆ แต่อยู่กับครอบครัวอื่นนะ ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ หมายถึงว่าครอครัวนี้มีบ้านอยู่หลังนึง แล้วมีห้องว่าง ก็เลยเอามาให้คนเช่าอยู่แทน เท่าที่เห็นก็ 70-120 ปอนด์ต่อสัปดาห์
2 แบบอยู่สองคน (share room) ก็เหมือนกับแบบแรกน่ะล่ะ แต่อยู่2คนแทน แต่ไม่ได้ประหยัดขึ้นมากมายนะ แค่ 10-20 ปอนด์เท่านั้นเอง ก็จะได้ห้องใหญ่ขึ้นเท่านั้นเอง เท่าที่เห็นก็ 60-120 ปอนด์ต่อสัปดาห์ต่อคน
3 แบบบ้าน ก็หมายถึงว่า ถ้าอยู่เป็นบ้านๆเลยก็เหมือนเช่าบ้านทั้งหลังเลย เรื่องราคาไม่แน่ใจเท่าไรนะ ที่เห็นก็ 300 ปอนด์ขึ้นไป เท่านั้นเอง

* ข้อควรระวัง ก็เรื่องค่าน้ำค่าไฟ ปกติมักจะรวมให้อยู่แล้ว แต่บ้างที่ไม่ได้รวมให้ ก็ต้องระวังด้วยนะ

ส่วนใหญ่ก็ตกประมาณ 80 ปอนด์ขึ้นไปนะ เพราะราคาถูกๆก็จะอยู่ไกล ไม่สะดวกเวลาเดินทางเท่าไร
บัตรอเนกประสงค์

เรื่องตกมาก็เรื่องค่า oyster card ก็ราคาไม่น่าเกิด 25 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ zone ไหน ด้วย ที่ผมจ่ายอยู่ตอนนี้ 19 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ก็สำหรับ รถไฟใต้ดิน โซน 2-3 เท่านั้น แต่รถเมล์ได้เต็มที่เลย

ที่จริงแล้วค่า oyster card ก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใช้หลาย zone แล้วก็ถ้าอยู่ในโซนต้นๆ ด้วย แต่ถ้าไม่เอารถไฟใต้ดินเลย ก็คงจะถูกลงพอสมควรเลยล่ะ แล้วก็ใช้แต่รถเมล์แทน อิอิ ก็แทนค่าที่อยู่แพงล่ะกัน
สะดวก เร็ว 

oyster card สามารถซื้อเป็นเดือนๆได้ด้วย หรือซื้อล่วงหน้าก็ได้เหมือนกัน แต่คนที่เรียนอยู่ ไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะกลัวหาย แล้วก็จ่ายที่เยอะๆ มันรู้สึกไม่ดี

อย่าลืมสมัครด้วยว่าเป็นนักเรียนนะ จะได้รับส่วนลดอีก 30% ด้วย
ทั้งชุด 15 ปอนด์ โทร skype ฟรี

เรื่องต่อมาก็ค่าโทรศัพท์ ที่นี่มีหลายเครื่อข่ายมาก ขึ้นอยู่กับว่า อยากจะใช้แบบไหนเท่านั้นเอง สำหรับที่ใช้อยู่ตอนนี้ ก็ 10 ปอนด์ ต่อ 3 เดือน (แพงนิด แต่ใช้ skype ได้ฟรี) ก็แล้วแต่ว่าจะใช้ยังไงนะ

สรุปคร่าวๆก็ 100 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ก็ประมาณ 5000 บาทต่อเดือนแล้วล่ะ
Mayo chicken .99 ปอนด์
กินอาหารขยะ ดีกว่าไม่มีอะไรกิน

ส่วนเรื่องค่าอาหาร ถ้าทำเองก็ไม่เกิน 1 ปอนด์ต่อมื้อแน่ๆ แต่ถ้าไปกินข้างนอก ก็แพงหน่อยล่ะ อย่างต่ำที่กินแล้วอิ่มสำหรับผม ที่เจอก็ แฮมเบอร์เกอร์ที่ แม็คโดนัล ราคา 0.99 ปอนด์ ก็พออยู่ท้องนะ
อาหารยอดแย่ 1

อาหารยอดแย่ 2

อาหารยอดแย่ 3

อาหารยอดแย่ 4


อาหารยอดแย่ 5


เว้นแต่ถ้าทำอาหารเองอย่างหรูนะ

เรื่องอื่นๆ ก็เรื่องเกี่ยวกับของใช่อื่นๆ ก็พวกของใช้ส่วนตัว ที่นี่ราคาไม่แพงมากนัก ไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก โดยรวมก็คงประมาณซัก 5 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง

สรุปๆผมเองใช้ค่่าอาหาร รวมกับของใช้ต่างๆ น่าจะไม่เกิน 30 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ก็สรุปว่าประมาณ 130 ปอนด์ต่อสัปดาห์ได้นั้นล่ะ
โลชั่น ขาดไม่ได้เลย (ข้างๆเป็นสเปรย์ฉีดเท้่า)

แชมพู ไวตามิน(กินแทนน้ำอัดลม) ปลาทูน่ากระเป๋าลดราคา(ดันไม่มีที่เปิด) 

หาปลาถูกๆากินแก้เบื่อ


ส่วนเรื่องหาเงิน ก็แล้วแต่ร้านที่ทำนะ ส่วนใหญ่ที่ทำกันก็มักจะได้วันละ 30 ปอนด์กัน ถ้าทำร้านอาหาร มักจะได้อาหารมาเป็นของแถมด้วย นอกจากนั้น ยังมีทิปอีกที่จะช่วยให้เรามีอยู่มีกินอีกเยอะ
ร้านนี้ ต้องการ NI ด้วยนะ อดเลย



สำหรับเรื่องอาชีพอื่นๆ ยังไม่รู้นะ ที่รู้ว่าคนไทยทำก็ร้านอาหารไทยนี่ล่ะ แต่ถ้าอยากไดร้านดีๆ ก็ต้องทำ NI ด้วย (ไว้จะบอกที่หลังล่ะกัน แต่ถ้าจะทำ NI ก็ต้องมีเวลาอย่างน้อยๆ 3 เดือนในการทำ แล้วต้องไม่เปลี่ยนที่อยู่ด้วย ผมเลยไม่ทำ จบ.
ทำงานแรกอาหาร

ผัดไทย

บางคนมาทำงานได้เงินวันละ 50 ปอนด์ ก็ยังมีเลย แล้วแต่โชคช่วยด้วยล่ะ แต่ยังไงก็ตาม ผมเองไม่ได้โชคดีที่หางานได้ เพราะงานที่ทำอยู่ ได้เงินน้อยมาก ถ้าเทียบเวลา กับเงินที่ได้อ่านะ

ก็มีที่บางคนอยู่ทำงานเป็นหลักก็มี ตอนเรียนเข้าไปนอน แล้วก็ทำงานจนได้เงินเป็นแสนกลับบ้านไป

คิดเล่นนะ
ถ้าทำได้วันละ 30 ปอนด์ละกันนะ (คิดว่าเป็นค่าเฉลี่ยละกัน) ทำทุกวันเลย ก็จะได้ 150 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ก็ได้ค่าอยู่ทั้งหมด นอกจากนั้น ค่าอาหารไม่มี ก็จะจ่าย
ก็จะใช้้เงิน 110 ปอนด์เท่านั้นเอง เหลือ 40 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ถ้าอยู่ครบปี ก็ 48 สัปดาห์ (+2 สัปดาห์คริสมาส) ก็จะได้ประมาณ 2,000 ปอนด์ หรือ 100,000 บาทนั้นเอง อิอิ เกือบได้มาฟรีแล้วน่ะ

6 ความคิดเห็น:

  1. ค่าใช้จ่าย + อาหารระดับกลาง ต่อสัปดาห์เท่ากับเท่าไหร่?

    ตอบลบ
  2. ที่เมืองไทย จัดว่าหรูแล้ว

    ตอบลบ
  3. ++คงพุงลดงานนิ้ หล่อเเน่

    ++ประสบการณ์ที่เข้มของเรา พร้อมเเบ่งปันให้เพื่อน ที่อยากเปิดโลกกว้าง
    ++บล๊อกนี้ study uk จะจบอย่างไร ไม่สําคัญเท่า ระหว่างทางผ่านหาเก็บดอกไม้แปลกๆๆ มาฝากคนอ่าน คอยชี้ขื้หมาให้คนทีหลังเดินง่ายขี้น --++เอาใจช่วย สู้สู้

    ตอบลบ
  4. อาหารแย่แต่อร่อย - แฮมเบอร์เกอร์
    Prinkles
    ข้าวผัดและผัดไทยไร้ผัก

    อาหารดีแต่รสชาดแย่ - ต้มยำไก่+แครอท
    เคบับที่มีผักเยอะๆ
    ปลาทูน่า
    วิตามิน(แทนน้ำอัดลม)

    ลองกินอาหารพื้นเมืองที่อร่อยและมีคุณภาพสัปดาห์ละมื้อน่าจะดี
    จะช่วยจ่ายให้เอง

    ตอบลบ
  5. ปลาทูน่ากระป๋องเนี่ยเข้าใจ แต่ปลาทูน่ากระเป๋ามันคืออะไร??
    แล้วสรุปว่าตอนนี้หาวิธีเปิดกระป๋องทูน่าได้ยังจ๊า

    ตอบลบ
  6. น้องอู๊ดน้อย สู้ๆนะ :P

    ตอบลบ

^ 2 U the comment